ซัมซุง ให้ความสำคัญตลาดเกมมิ่งมอนิเตอร์ แยกซับแบรนด์ Qdyssey จับตลาดโดยเฉพาะ ชูจุดเด่นนวัตกรรมจอโค้งระดับพรีเมียม ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำตลาดเกมมิ่งมอนิเตอร์ภายในสิ้นปีนี้ จากที่ปัจจุบันครองตำแหน่งผู้นำมอนิเตอร์โค้งสำหรับการใช้งานทั่วไปอยู่แล้ว
นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ รองประธาน ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจมอนิเตอร์ของซัมซุง ที่ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจ จอแสดงผล (Display) ที่ประกอบไปด้วย LED Signage ใช้จอ LED แสดงผลขนาดใหญ่สำหรับการโฆษณา เพิ่มเติมจากหน้าจอ Smart Signage ถัดมาคือกลุ่ม Hospitality TV ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม และโรงพยาบาลที่สามารถปรับแต่งเมนูให้ผู้ที่เข้าพักใช้งาน สุดท้ายคือกลุ่มของมอนิเตอร์ (Monitor)
“ซัมซุงเป็นผู้นำในธุรกิจ จอแสดงผล ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ที่เชื่อว่าจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำได้อย่างต่อเนื่อง จากการนำเสนอมอนิเตอร์รุ่นใหม่ซึ่งนำที่สุดของเทคโนโลยีการแสดงผลมาให้บรรดาเกมมิ่งได้เข้าถึง”
ซัมซุง เริ่มพัฒนา มอนิเตอร์จอโค้ง (Curved Monitor) ตั้งแต่ในปี 2014 และพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นจอมอนิเตอร์โค้งขนาด 49 นิ้ว สำหรับใช้ในสำนักงานเป็นหลัก พร้อมพัฒนาจอมอนิเตอร์ที่ช่วยประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน (The Space) และล่าสุดคือการเปิดตัวเกมมิ่งมอนิเตอร์อย่างเป็นทางการ
ปัจจุบันมูลค่าตลาดเกมทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 1.59 แสนล้านบาท ที่ถือว่ามีมูลค่าแซงหน้าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไเรียบร้อยแล้ว โดยมีสัดส่วนหลักอยู่ในตลาดสมาร์ทโฟนที่ราว 40% ตามด้วยเกมคอนโซล 28% เกมคอมพิวเตอร์ 21% ที่น่าสนใจคือตลาดหลักของอุตสาหกรรมเกมเกือบครึ่งอยู่ในภูมิภาคเอเชีย
โดยช่วงที่ผ่านมาตลาดเกมมิ่งมอนิเตอร์กลายเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดมอนิเตอร์มีการเติบโต ที่สำคัญคือจอมอนิเตอร์แบบจอโค้งที่ปัจจุบันมีสัดส่วนกว่า 56% ของตลาดที่มีมูลค่ากว่า 4 พันล้านบาทแล้ว ทำให้ ซัมซุง เห็นถึงโอกาสในการทำตลาดเกมมิ่งมอนิเตอร์ในประเทศไทย และต้องการรักษาอัตรการเติบโตกว่า 30% ให้ได้ต่อเนื่องในปีนี้ เพื่อขึ้นเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มเกมมิ่งมอนิเตอร์ด้วย
นางจีรภา คงสว่างวงศา ผู้อำนวยการ ผลิตภัณฑ์จอภาพเพื่อธุรกิจองค์กร ไทยซัมซุง กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ตลาดมอนิเตอร์มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มหน้าจอเกมที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในกลุ่มจอโค้ง
ขณะเดียวกันเทรนด์ของหน้าจอเกมมิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือ มีอัตราการตอบสนองที่เร็วขึ้น (Response time) รองรับการแสดงผลที่ลื่นไหล (Refresh Rate 240hz) และความโค้งของจอที่ 1000R สอดรับกับความโค้งของดวงตาพอดี
นอกจากนี้ ซัมซุง ยังได้ทำการสำรวจในแง่ของภาพลักษณ์แบรนด์พบว่า ในกลุ่มเกมเมอร์ จะให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่มีความแตกต่าง และโดดเด่นในกลุ่มเกมมิ่งโดยเฉพาะ ทำให้ซัมซุง ตัดสินใจแตกซับแบรนด์ Odyssey ออกมาเพื่อจับกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการเล่นเกมโดยเฉพาะ
ความโดดเด่นของจอ Odyssey G9 คือเป็นจอเกมโค้งขนาด 49” ที่ให้อัตราการตอบสนองที่รวดเร็ว 1ms รองรับการรีเฟรชระดับ 240Hz ด้านหลังหน้าจอสามารถปรับสีไฟให้เหมาะกับสภาพการใช้งานได้ถึง 52 สี สามารถปรับความสูงต่ำได้ตามสรีระของผู้ใช้
ในขณะที่ Odyssey G7 ที่เป็นรุ่นรองลงมาจะมีตัวเลือกขนาดหน้าจอ 27 นิ้ว และ 32 นิ้ว มาพร้อมกับเทคโนโลยีระดับใกล้เคียงกัน วางจำหน่ายในราคา 18,900 บาท และ 20,900 บาท ตามลำดับ ส่วน Odyssey G9 เปิดราคาที่ 42,900 บาท
"แสดงผล" - Google News
August 27, 2020 at 05:15PM
https://ift.tt/2QrOj5J
ซัมซุง แยกซับแบรนด์ Odyssey จับตลาดเกมมิ่งมอนิเตอร์ - ผู้จัดการออนไลน์
"แสดงผล" - Google News
https://ift.tt/3cS0tOw
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3dnz7A2
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ซัมซุง แยกซับแบรนด์ Odyssey จับตลาดเกมมิ่งมอนิเตอร์ - ผู้จัดการออนไลน์"
Post a Comment