ปวดแบบไหนเสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม!!
วันที่ 26 ส.ค. 2563 เวลา 09:01 น.
รู้หรือไม่ 1 ใน 5 ปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุไทย คือโรคข้อเข่าเสื่อม ปวดข้อ-ปวดเข่าเรื้อรังไม่หายเสียที แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกระดูกและข้อ ชวนเช็กลิตส์ตัวเองกันหน่อย...ปวดแบบไหนเสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม!!
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ความเสื่อมของร่างกายเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โรคภัยเริ่มถามหา โดยเฉพาะโรคข้อเข่าเสื่อม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหลายคนจะเข้าใจว่า เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ แต่ความเป็นจริงแล้ว กลุ่มวัยรุ่น ก็เป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเรื่องข้อเข่าเสื่อมด้วยเช่นกัน
ข้อมูลโดย นพ.ปิยวัฒน์ จิรัปปภา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกระดูกและข้อ ประจำโรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานี โรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับโรคข้อเข่าเสื่อมและสถิติที่น่าตกใจ เมื่อพบว่า 1 ใน 5 ปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุไทย คือโรคข้อเข่าเสื่อม
รู้จักโรคข้อเข่าเสื่อม
โรคข้อเข่าเสื่อมนั้น เกิดจากการที่กระดูกอ่อน ผิวข้อมีการสึกหรอ หลุดร่อน ทำให้กระดูกมีการเสียดสีกัน และร่างกายพยายามที่จะซ่อมแซมตัวเอง โดยการสร้างกระดูกขึ้นมาใหม่ แต่จะเป็นการสร้างในตำแหน่งที่ไม่ควรจะสร้าง ทำให้เกิดอาการอักเสบของข้อ ปวดเรื้อรัง บวม กดเจ็บ เคลื่อนไหวลำบาก และข้อผิดรูป
สาเหตุของข้อเข่าเสื่อม
- อายุที่มากขึ้น
- น้ำหนักตัวที่มากเกินไป
- พฤติกรรมการใช้ข้อผิดวิธี เช่น การนั่งยอง นั่งคุกเข่า นั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิเป็นเวลานาน
- เคยได้รับบาดเจ็บบริเวณเข่า เช่น กระดูกหัก เข่าแตก เอ็นฉีก เป็นต้น
- โรคที่เคยเป็น เช่น โรครูมาตอยด์ โรคเก๊าท์
- การไม่ออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าไม่แข็งแรง
- การใช้ยา โดยมีการใช้ยาสเตียรอยด์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
Checklist อาการแบบไหนเข้าข่ายเสี่ยงเป็นข้อเข่าเสื่อม
มาสังเกตุอาการเบื้องต้นกันหน่อย ว่าปวดแบบไหนถึงจะเข้าข่ายเสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีอาการดังนี้
- ปวดหรือเจ็บข้อเข่าเวลาเดิน นั่ง หรือขึ้นลงบันได
- ปวดเรื้อรังหลายปี
- เข่าโตขึ้น ข้อเข่าบวม
- ขาโก่ง
Checklist ใครเสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมบ้าง
สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคข้อเข่าเสื่อม มีหลายกลุ่ม
- น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน
- ผู้ที่ปวดเข่าเรื้อรังหลายปี
- อายุมากกว่า 40 ปี
- เคยป่วยด้วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคพุ่มพวง (SLE) โรคเก๊าท์
- เคยเกิดอุบัติเหตุทำให้มีกระดูกหักบริเวณข้อเข่า
แนวทางการรักษา
แนวทางการรักษา จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่
1.การรักษาแบบไม่ผ่าตัด เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดและช่วยให้เข่าเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น โดยมีหลากหลายวิธี ดังนี้
- ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต ได้แก่ รับประทานอาหารที่เหมาะสมเพื่อควบคุมน้ำหนักตัว
- ออกกำลังกายชนิดส่งแรงกระแทกข้อเข่าน้อยเป็นประจำ เช่น ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เดิน เพื่อส่งเสริมให้ข้อเข่าแข็งแรงขึ้น
- ลดน้ำหนักหากมีน้ำหนักตัวมากเกินไป เพื่อลดแรงกดบนข้อเข่า
- รักษาด้วยยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ และยากลุ่มสารอาหารเสริมสร้างกระดูก
- ฉีดสารน้ำเลี้ยงไขข้อ ในกรณีที่มีอาการปวดไม่มาก และการทำลายของกระดูกอ่อนยังไม่รุนแรง
- ฉีดยาสเตียรอยด์ ในกรณีที่มีอาการปวดเฉียบพลันที่รุนแรงและเป็นครั้งคราว
- ทำกายภาพบำบัด เช่น บริหารกล้ามเนื้อรอบเข่า
2. การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม จำเป็นในกรณีรักษาด้วยยาและปรับวิธีดำเนินชีวิตแล้วไม่ได้ผล ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็ว หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพอื่นๆ สามารถขอคำปรึกษาจากทีมแพทย์โรงพยาบาลในเครือบริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด ได้ทั้ง 10 แห่ง ใน 9 จังหวัด และสามารถติดตามสาระดีๆ เกี่ยวกับการแพทย์ได้ที่ เฟซบุ๊ก : Principal Healthcare Company
"เป็นต้นฉบับ" - Google News
August 26, 2020 at 09:10AM
https://ift.tt/2Qolvvd
ปวดแบบไหนเสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม!! - โพสต์ทูเดย์
"เป็นต้นฉบับ" - Google News
https://ift.tt/2xbvptW
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3dnz7A2
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ปวดแบบไหนเสี่ยงเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม!! - โพสต์ทูเดย์"
Post a Comment