แกนนำองค์กรกลางในการรวบรวมประชาชนผู้ภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ภายใต้ชื่อ "ไทยภักดี" ได้เปิดเวทีปราศรัยนาน 5 ชม. และเปิดรับสมัครสมาชิกเพื่อขยายแนวร่วมทางอุดมการณ์เป็นครั้งแรกในรอบ 12 วันหลังเปิดตัวกลุ่ม พร้อมตอบโต้ 10 ข้อเสนอในการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ถูกนำเสนอไว้บนเวทีการชุมนุมภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เมื่อ 10 ส.ค.
แกนนำองค์กรกลางในการรวบรวมประชาชนผู้ภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ภายใต้ชื่อ "ไทยภักดี" ได้เปิดเวทีปราศรัย และเปิดรับสมัครสมาชิกเพื่อขยายแนวร่วมทางอุดมการณ์เป็นครั้งแรกในรอบ 12 วันหลังเปิดตัวกลุ่ม พร้อมตอบโต้ 10 ข้อเสนอในการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ถูกนำเสนอไว้บนเวทีการชุมนุมภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เมื่อ 10 ส.ค.
นพ. วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้ก่อตั้งกลุ่มไทยภักดี ได้นำมวลชนที่มารวมตัวกันภายในอาคารกีฬาเวสน์ 2 ภายใต้ชื่อกิจกรรม "ได้เวลาออกจากบ้าน" กล่าวปฏิญาณอุดมการณ์ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก่อนประกาศแนวทางการต่อสู้ว่าจะใช้ "ความจริง"เพื่อให้ลูกหลานที่อยู่อีกฝั่งเปรียบเทียบ โดยยืนยันว่า "แนวคิดในการจัดม็อบชนม็อบไม่อยู่ในหัวของพวกเราโดยเด็ดขาด"
แกนนำซึ่งเป็นอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การเกิดขึ้นของแฟลชม็อบนักศึกษาซึ่งยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ได้แก่ หยุดคุกคามประชาชน, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และยุบสภา แต่สุดท้ายสิ่งเหล่านี้แปรเปลี่ยนเป็นการล้มล้างสถาบันพระมหากษัติย์ ทำให้มวลชนกลุ่มไทยภักดีต้องออกมาในวันนี้
"ข้อเรียกร้อง 3 ข้อ เป็นการเอามาบังไว้เฉย ๆ เป็นประชาธิปไตยอำพรางที่ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์" นพ.วรงค์ กล่าว พร้อมชี้ว่า เบื้องหลังของการชุมนุมของเยาวชนคือแกนนำพรรคการเมืองที่ถูกยุบไปแล้ว
หมอวรงค์พาย้อนอดีต เชื่อธนาธรอยู่เบื้องหลังม็อบ
นพ. วรงค์ เริ่มต้นการบรรยายด้วยการย้อนอดีต ที่รัฐธรรมนูญ 2560 มีความชอบธรรมเพราะผ่านการลงประชามติถึง 16 ล้านเสียง ก่อนชี้ว่าการยอมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งของพรรคการเมืองอย่างอนาคตใหม่ (อนค.) รวมทั้งการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "คนอยากเลือกตั้ง" เป็นการยอมรับกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
แต่หลังจากนั้น อดีตหัวหน้าพรรค อนค. กลับทำผิดกฎหมาย เช่น การโอนหุ้นสื่อ หรือการให้เงินกู้แก่พรรค โดยทั้งหมด นพ.วรงค์ เห็นว่าเป็นเหตุที่นำมาสู่การเกิดขึ้นของแฟลชม็อบเมื่อช่วงต้นปี ก่อนยกระดับเป็นการชุมนุมในระยะนี้
"เรื่องทั้งหมดเกิดจากธนาธร (จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้า อนค.) ทำผิดกฎหมาย อนาคตใหม่ทำผิดกฎหมาย แล้วไม่พอใจ จึงมาจัดม็อบ เป็นการจัดม็อบที่ใช้อคติส่วนตัว และมีอคติต่อสถาบันเบื้องสูง" ผู้ก่อตั้งกลุ่มไทยภักดีระบุ
ในการบรรยายเรื่องนี้ นพ.วรงค์ ยังเชื่อมโยงแกนนำอดีต อนค. เข้ากับข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ 10 ข้อ จากการชุมนุมของนักศึกษาที่เรียกตัวเองว่า "แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม" บนเวที มธ. รังสิต เมื่อ 10 ส.ค. โดยตั้งคำถามว่า "10 ข้อที่เรียกร้อง มีข้อไหนที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารแผ่นดินต่อรัฐบาลบ้าง"
เขายังกล่าวหาบุคคลจากอดีตพรรคการเมืองที่ถูกยุบว่า "ตัดตอนประวัติศาสตร์และบิดเบือนข้อเท็จจริง" เกี่ยวกับการรัฐประหารของทหารไทยให้กับเยาวชน ดังนั้นปัญหาของประเทศในขณะนี้จึงไม่ใช่เรื่องของการต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ แต่อยู่ที่นักการเมือง พร้อมได้ขอให้มวลชนช่วยกันตามหาว่าแกนนำตัวจริงอยู่ไหนที่หลอกนิสิตนักศึกษาไปนำม็อบ
ย้ำสถาบันฯ "ถูกมัดมือชกอยู่ฝ่ายเดียว"
นพ. วรงค์ยอมรับกับแนวร่วมกลุ่มไทยภักดีว่า "ขยับตัวช้า" แต่เมื่อทนไม่ได้จึงต้องออกมา เพราะความเคลื่อนไหวในขณะนี้ ไม่เพียงทำลายสถาบันครอบครัว ความสัมพันธ์ครูและศิษย์ ประเพณี ศาสนา แต่ยังทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างชาติและศาสนาเข้าด้วยกัน
"ผมดูการออกมาพูดของคนพวกนี้ แล้วเห็นว่าท่านชี้แจงไม่ได้ ท่านไม่มีโอกาสได้ชี้แจง เหมือนกับท่านถูกมัดมือชกอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าเป็นการมัดมือชกโดยคนดีก็อีกอย่างหนึ่ง แต่นี่เป็นการมัดมือชกของคนชั่ว" นพ.วรงค์ ประกาศกับมวลชน
แกนนำกลุ่ม "ไทยภักดี" ยังเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด อาจารย์มหาวิทยาลัย นักการเมือง และพรรคการเมืองที่สนับสนุนการล้มล้างสถาบันฯ รวมทั้งแกนนำอดีตพรรคการเมือง และนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธุ์ นักวิชาการผู้ลี้ภัยทางการเมือง โดยทางกลุ่มเตรียมยื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ให้ชี้แจงการให้ที่พำนักแก่นายปวินที่ กลุ่มไทยภักดีมองว่าได้ใช้ประเทศญี่ปุ่นเป็นฐานการเคลื่อนไหวในการทำลายประเทศ
ไทยภักดี โต้ 10 ข้อปฏิรูปสถาบันฯ
หฤทัย ม่วงบุญศรี หรืออุ๊ ศิลปินชื่อดัง และผู้ก่อตั้งกลุ่มไทยภักดี ได้ใช้เวลาช่วงหนึ่งในระหว่างขึ้นกล่าวปราศรัยในฐานะ "กรรมการกลุ่มไทยภักดี" ตอบโต้ 10 ข้อเรียกร้องในการปฏิรูปสถาบันฯ เช่นกัน
เธอระบุว่า ผู้นำเสนอได้ "โกหก" คนไทยว่า 10 ข้อนี้เพื่อต้องการเชิดชูพระเกียรติของสถาบันฯ พร้อมหยิบยกเนื้อหาบางส่วนมาให้เหตุผลในด้านกลับจากมุมมองของเธอ โดยสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
ข้อ 1 ยกเลิกมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ ที่ว่าผู้ใดจะกล่าวหาฟ้องร้องกษัตริย์มิได้ แล้วเพิ่มบทบัญญัติให้สภาผู้แทนราษฎรสามารถพิจารณาความผิดของกษัตริย์ได้ เช่นเดียวกับที่เคยบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับคณะราษฎร
อุ๊ หฤทัย : "จะให้รัฐสภาไต่สวนพิจารณาความผิดของสถาบันฯ ได้ โห่ให้พวกมันหน่อย (เสียงโห่ลั่น) …เป็นใคร ใครกันแน่ที่ดึงฟ้าต่ำ พวก…คิดว่าเป็นใคร สถาบันฯ ไม่ใช่พรรคการเมือง พวก…กระทำความผิดทุจริตคอร์รัปชัน ก็ไปไต่สวนกันเองในสภา ไม่เกี่ยว"
ข้อ 2 ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมถึงเปิดให้ประชาชนได้ใช้เสรีภาพแสดงความคิดเห็นต่อสถาบันกษัตริย์ได้ และนิรโทษกรรมผู้ถูกดำเนินคดีเพราะวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ทุกคน
อุ๊ หฤทัย : "ยกเลิก 112 จะให้จาบจ้วงได้ ใส่ร้ายป้ายสีเข้าไป ใส่เฟคนิวส์ ปั่นแฮชแท็ก อะไรจะเกิดขึ้นน่ะ แล้วอ้างเสรีภาพ แต่ใครไปฟ้องหมิ่นประมาท ก็พวก...ฟ้องกฎหมายหมิ่นประมาทไม่ใช่หรือ"
ข้อ 3 ยกเลิก พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2561 และให้แบ่งทรัพย์สินออกเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงการคลัง และทรัพย์สินส่วนพระองค์ที่เป็นของส่วนตัวของกษัตริย์อย่างชัดเจน
อุ๊ หฤทัย : "แก้ไขกฎหมายทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พวก…ก็จะทำเหมือนคณะราษฎรที่ปล้นสมบัติของราชวงศ์จักรี แนวความคิดจะให้ไปเป็นสาธารณะสมบัติ เอาทรัพย์สินของพวก…ไปแจกจ่ายก่อน เอาหรือเปล่า"
ข้อ 5 ยกเลิกส่วนราชการในพระองค์ หน่วยงานที่มีหน้าที่ชัดเจน เช่น หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ให้ย้ายไปสังกัดหน่วยงานอื่น และหน่วยงานที่ไม่มีความจำเป็น เช่น คณะองคมนตรี ให้ยกเลิก
อุ๊ หฤทัย : "จะให้ยกเลิกองคมนตรี ไม่ให้มีหน่วยงานรักษาความปลอดภัยในพระองค์ แล้วบอกหวังดีหรือ ไม่รู้ว่าจะด่าคำว่าอะไร โห่พวกมันหน่อย (เสียงโห่ดัง) ทำไมอ่ะพ่อแม่…ยังมียามหน้าหมู่บ้านเลย"
ข้อ 6 ยกเลิกการบริจาคและรับบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลทั้งหมด เพื่อกำกับให้การเงินของสถาบันกษัตริย์อยู่ภายใต้การตรวจสอบทั้งหมด
อุ๊ หฤทัย : "ไม่ให้ทำบุญโดยเสด็จพระราชกุศล ไม่ให้พ่อแม่พี่น้องทำบุญบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล ไปห้ามพ่อแม่…ทำไม่ให้บุญก่อนดิ ความศรัทธาของคนไทยอ่ะ อย่าว่าแต่ทรัพย์สินเลย นี่คนไทยถวายให้พระองค์ท่านด้วยความเทิดทูน ด้วยความเคารพรัก แม้แต่ชีวิตเขาก็ให้ได้"
ข้อ 7 ยกเลิกพระราชอำนาจในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในที่สาธารณะ
อุ๊ หฤทัย : "ไม่ให้พระมหากษัตริยได้แสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะ ไอ้นี่ก็ติ๊งต๊อง ไม่ให้เขาพูด ทีพวก…เดินพูดทุกวัน ๆ อ้างว่ามีสิทธิเสรีภาพทำลายประเทศทุกวัน ย่ำยีหัวใจทุกวัน ใช้เฟคนิวส์ ใช้คำพูดอันเป็นเท็จอย่างหน้าด้าน ๆ แต่ถึงเวลา…บอกว่าไม่ให้พระมหากษัตริย์มีพระราชกระแสรับสั่ง ไม่ให้พระองค์ท่านได้แสดงความคิดเห็น แล้ว...มีความยุติธรรม มีหัวใจเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า โห่มันดัง ๆ (เสียงโห่ลั่น) และเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เหตุผลที่ประเทศของเรานั้นมีพระประมุข เพราะว่าพระองค์ท่านอยู่เหนือการเมือง อยู่เหนือความขัดแย้ง มีความสำคัญมาก ทุกวันนี้พระองค์ท่านก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรมาก"
ข้อ 8 ยกเลิกการประชาสัมพันธ์และการให้การศึกษาที่เชิดชูสถาบันกษัตริย์แต่เพียงด้านเดียวจนเกินงามทั้งหมด
อุ๊ หฤทัย : "ให้ยกเลิกการประชาสัมพันธ์ ไม่ให้คนไทยได้ศึกษาการเชิดชูสถาบันฯ ไม่มีแม้แต่ข่าวในพระราชสำนัก เกิดอะไรขึ้น นี่หรือที่บอกว่าหวังดีกับสถาบันฯ น่ะ"
ข้อ 9 สืบหาความจริงเกี่ยวกับการสังหารเข่นฆ่าราษฎรที่วิพากษ์วิจารณ์หรือมีความเกี่ยวข้องใด ๆ เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
อุ๊ หฤทัย :" สืบหาความจริงเรื่องการเข่นฆ่าราษฎร โดยฉกชิงฉกฉวยสถานการณ์ของการหายตัวไปของใครบางคน โดยคนไทยเราไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเลย นายวันเฉลิม แล้วทำไม ปวิน โรส ลอนดอน โพสต์หมิ่นสถาบันฯ แล้วทำไมยังมีชีวิตอยู่ล่ะ นายวันเฉลิมเป็นใคร เขาอยู่ไหน เราก็ไม่ทราบ แล้วทำไมล่ะ ใช้อะไรคิด มันเป็นการใส่ร้ายเพื่อสร้างความเกลียดชัง ยิ่งเป็นสิ่งที่คนไทยงงว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรในสถานการณ์ปัจจุบันนี้"
สำหรับข้อเสนอใน "ปรากฏการณ์ 10 สิงหา" ที่ อุ๊ หฤทัย ไม่ได้พูดถึงมีอยู่ 2 ข้อคือ ข้อ 4 ตัดลดงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรให้กับสถาบันกษัตริย์ให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และข้อ 10 ห้ามมิให้ลงพระปรมาภิไธยรับรองการรัฐประหารครั้งใดอีก
อุ๊ บอกแนวร่วม "ต้องไม่เกลียดชังเด็ก ๆ ไม่ใช้คำพูดหยาบคาย"
ก่อนจะพูดถึงข้อเสนอในการปฏิรูปสถาบันฯ อุ๊ หฤทัย ได้ปฏิเสธวาทกรรม "โหนเจ้า" โดยระบุว่าทุกคนที่ออกมาปกป้องสถาบันฯ ล้วนแต่โดนวาทกรรมนี้ทำร้ายจิตใจ จนไม่กล้าออกมาพูด ได้แต่อัดอั้น เก็บความรู้สึก ซึ่งเป็นที่น่าหดหู่สังเวชจิตใจ
ศิลปินวัย 46 ปียังแสดงความเป็นห่วงและกังวลใจแทนพ่อแม่ของเยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองเพราะกำลัง "ตกเป็นเครื่องมือ" ของ "ขบวนการสมคบคิด" และต้องเผชิญกับการกระทำความผิดกฎหมายอาญาแผ่นดิน
"ความพยายามเปลี่ยนแปลงการปกครองของชาติ มันคือความผิดร้ายแรง เพนกวิน (นายพริษฐ์ ชิวารักษ์) รู้หรือเปล่า" หฤทัยตั้งคำถาม
ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มไทยภักดีรายนี้ยังเผยยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนกลุ่มว่า ต้องให้ความเข้าใจกับเด็ก ๆ ว่าได้รับข้อมูลในด้านที่ผิด และแสดงให้เห็นว่าคนไทยพร้อมทำความเข้าใจ พร้อมส่งข้อมูลข่าวสารและให้ความจริงอีกด้าน และให้อภัยพวกเขา แม้สิ่งที่ทำเป็นการละเมิดก็ตาม ก็ต้องลงโทษไปตามกฎหมายบ้านเมือง
"เราต้องไม่เกลียดชังเด็ก ๆ ไม่ไปใช้คำพูดหยาบคาย เฮทสปีชให้เกลียดชังกันเข้าไปอีก" อุ๊ หฤทัยกล่าวและว่า ถ้าใครทำลายสถาบันฯ เท่ากับทำลายความร่มเย็น ถ้าเกลียดชังกองทัพ เท่ากับเอาความมั่นคงออกไปจากประเทศไทย
เปิดตัว 6 องค์กรแนวร่วม
บ่ายวันนี้ (30 ส.ค.) กลุ่มไทยภักดีนัดหมายสมาชิกมาพบปะกันที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง พร้อมเปิดรับสมัครสมาชิกกลุ่ม ด้วยการให้นำสมาร์ทโฟนมาสแกนเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มในแอปพลิเคชันไลน์ พร้อมแนบบัตรประชาชนด้วย ซึ่ง นพ.วรงค์ให้เหตุผลว่าต้องการให้สมาชิกมีตัวตนจริง ไม่ใช่บัญชีอวตาร ทั้งนี้ภายในกลุ่มไลน์จะให้บริการข้อมูลข่าวสาร บทความ กระทู้ความเห็น และไทยภักดีโพล
หนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่จะเกิดขึ้นคือการเปิดตัว "แนวร่วม" ทางอุดมการณ์อย่างน้อย 6 กลุ่มซึ่งใช้ชื่อว่ากลุ่มประชาพิทักษ์ หัวหิน, กลุ่มเสื้อหลากสี, กลุ่มเพชรบุรีรวมใจปกป้องสถาบัน, ศูนย์กลางประสานงานนักศึกษาอาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบัน (ศอปส.) ข้าแผ่นดินจอมสยาม และศิษย์เก่าอุเทนถวาย
แกนนำแต่ละกลุ่มได้ขึ้นกล่าวแสดงความรู้สึกสั้น ๆ บ้างก็เรียกตัวเองเป็น "พสกนิกรของพระราชา" บ้างก็บอกว่าเป็น "สลิ่มรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" ขณะที่บางส่วนเรียกคู่ตรงข้ามทางความคิดว่า "คณะจาบจ้วง"โดยพวกเขายืนยันตรงกันว่าออกมาทำเพื่อปกป้องสถาบันฯ จากการถูกจาบจ้วง
นพ. ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ จากกลุ่มเสื้อหลากสี เรียกร้องให้นักเรียนและศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหว "กลับบ้านเถอะน้อง" เพราะกำลังถูกวางแผนให้มาสร้างความแตกแยก สงครามไม่ได้อยู่บนถนน แต่แตกแยกตั้งแต่ในบ้านและโรงเรียน พร้อมย้ำให้กลับไปศึกษาประวัติศาสตร์ให้ดีก่อน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อนักการเมืองและนักวิชาการ
ตัวแทน 2 กลุ่มได้ประกาศเคลื่อนไหวในพื้นที่ของตัวเอง ได้แก่ กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ และกลุ่มเพชรบุรีรวมใจปกป้องสถาบัน นัดชุมนุมวันที่ 4 ก.ย. นี้
ขณะที่ผู้กลุ่มไทยภักดีเตรียมเดินสายไปพบปะสมาชิกที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยถือเป็นการเดินทางไปต่างจังหวัดเวทีแรก
ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ บนเวที อาทิ การร่วมกันถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี, การรับชมสารคดีพระราชกรณียกิจของในหลวง ร. 10 และการร่วมรับฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวง ร. 9
"พวกเขาทั้งหมด" - Google News
August 30, 2020 at 09:05PM
https://ift.tt/32ysgA8
ไทยภักดี ประกาศสู้ขบวนการ “ประชาธิปไตยอำพรางต้องการล้มล้าง” โต้ 10 ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันฯ - บีบีซีไทย
"พวกเขาทั้งหมด" - Google News
https://ift.tt/2VFpqXR
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3dnz7A2
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ไทยภักดี ประกาศสู้ขบวนการ “ประชาธิปไตยอำพรางต้องการล้มล้าง” โต้ 10 ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันฯ - บีบีซีไทย"
Post a Comment