Search

อานนท์ นำภา: ศาลอนุมัติหมายจับแกนนำ-ผู้ปราศรัยในการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลอย่างน้อย 7 คน - บีบีซีไทย

faca.prelol.com

ออกหมายจับแกนนำชุมนุมต่อต้านรัฐบาล-ปราศรัยวิจารณ์สถาบันกษัตริย์

ศาลอนุมัติหมายจับแกนนำและผู้ปราศรัยในการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลอย่างน้อย 7 คน ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน สน. สำราญราษฎร์ ระบุเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดอาญาหลายข้อหา มีอัตราโทษจำคุกเกินสามปี

หมายจับแรกถูกเผยแพร่โดยนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน ซึ่งโพสต์ภาพหมายจับพร้อมเขียนข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวช่วงบ่ายวันนี้ (7 ส.ค.) ว่า "ผมโดนจับแล้ว" ต่อมาศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่านายภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ถูกออกหมายจับให้ข้อหาเดียวกันกับนายอานนท์

ในหมายจับระบุว่านายอานนท์เป็น "ผู้ต้องหาที่ 7" ส่วนนายภาณุพงศ์เป็น "ผู้ต้องหาที่ 5" ซึ่งทั้งสองคนได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.สำราญราษฎร์

ภาณุพงศ์ จาดนอก

ในเวลาไล่เลี่ยกัน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ "เพนกวิน" นักศึกษากลุ่มโดมปฏิวัติโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่าเขาถูกออกหมายจับเช่นกัน แต่ยังไม่ถูกจับกุมและจะกระทำการอารยะขัดขืนโดยการไม่เดินทางไปมอบตัวเพราะเขาเห็นว่าการออกหมายจับนี้ "ไม่ชอบธรรม"

ขณะนี้ บีบีซีไทยยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีแกนนำผู้ชุมนุมและผู้ปราศรัยถูกออกหมายจับทั้งหมดกี่คน

หมายจับไม่ได้ระบุชัดว่าผู้ต้องหาถูกตั้งข้อหาจากการกระทำใดหรือการชุมนุมในครั้งใด แต่คาดว่านายอานนท์ตกเป็นผู้ต้องหาจากการปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยประเด็นการขยายพระราชอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ส่วนนายภาณุพงศ์ แกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นปราศรัยในการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 18 ก.ค.

ข้อกล่าวหาที่ปรากฏในหมายจับมีดังนี้

  • ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันเป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน
  • ร่วมกันชุมนุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไป
  • ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิด
  • ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุมทำกิจกรรมมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค
  • กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจะเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
  • ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของหรือโดยกระทำด้วยประการอื่นใด
  • ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่น หรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร
  • ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใด ๆ บนถนน
  • ร่วมกัน โฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

หมายจับระบุด้วยว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับน่าจะได้กระทำความผิดอาญาซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี

อานนท์ นำภา

นายอานนท์เป็นหนึ่งในผู้ปราศรัยในการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก เมื่อ 18 ก.ค. และอีกหลายเวทีต่อเนื่อง รวมถึงเวทีเมื่อ 3 ส.ค. จัดโดยนักศึกษากลุ่ม "มหานครเพื่อประชาธิปไตย" และกลุ่ม "มอกะเสด" ซึ่งเขาได้อภิปรายปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน ก่อนถูกกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีแจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นสถาบันในอีก 2 วันต่อมา

เนื้อหาสำคัญของการปราศรัยเมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายอานนท์ได้มุ่งเน้นไปเรื่องข้อกฎหมาย 4 เรื่องคือ

  • การแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังผ่านประชามติ
  • การแก้กฎหมายปี 2560 ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย
  • พ.ร.ก. ย้ายบางส่วนของกองทัพเป็นของพระมหากษัตริย์
  • พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563

เขาประกาศด้วยว่า จะไม่ขึ้นปราศรัยในการชุมนุมครั้งต่อไป หากไม่ยอมให้เขาพูดถึงสถาบันกษัตริย์อย่างเปิดเผย ล่าสุดเขาเปิดเผยว่าจะขึ้นปราศรัยอีกครั้งที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 9 ส.ค. นี้โดยยืนยันว่า "จะพูดถึงสถาบันกษัตริย์อย่างตรงไปตรงมา เพื่อสะท้อนปัญหา และหาทางออกร่วมกัน"

อานนท์ นำภา

รัฐตอบสนองอย่างไรต่อความเคลื่อนไหวบนท้องถนน

นับจากการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "เยาวชนปลดแอก" ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อ 18 ก.ค. ซึ่งประกาศ 3 ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ได้แก่ หยุดคุกคามประชาชน, ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และยุบสภา ก็ปรากฏว่ามีความพยายามจากฝ่ายรัฐในการลดอุณหภูมิทางการเมืองบนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง

บีบีซีไทยรวบรวมปฏิกิริยาจากภาครัฐว่าตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมอย่างไร ในรอบ 2 สัปดาห์เศษ ก่อนออกหมายจับแกนนำผู้ชุมนุม

  • 20 ก.ค. พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) เพื่อหารือกรณีการชุมนุม เมื่อ 18 ก.ค. แต่ท้ายที่สุดไม่ปรากฏว่ามีการตั้งข้อหาใด ๆ แก่ผู้จัดกิจกรรม หลังมีรายงานข่าวปรากฏในสื่อหลายสำนักว่าตำรวจท้องที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ และตรวจสอบว่าการจัดการชุมนุมเข้าข่ายความผิดใน 3 ฐานหรือไม่ ดังนี้
  • 22 ก.ค. คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติต่ออายุการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-31 ส.ค. เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทว่าได้ถอดข้อกำหนดเรื่องการห้ามชุมนุมออกไป เพื่อยุติเสียงวิจารณ์จากผู้ชุมนุมที่ว่ารัฐบาลใช้ "พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมม็อบ ไม่ใช่คุมโรค" ทั้งนี้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่า "ไม่ได้ห้ามชุมนุมทางการเมือง แต่ขอให้ทำตามกฎหมาย"
  • 23 ก.ค. สภาผู้แทนราษฎรมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ตามข้อเสนอของ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล ทว่า 6 พรรคฝ่ายค้านได้ "บอยคอต" ไม่ส่งคนเข้าร่วมวง กมธ. เพราะมองว่าสภาไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับนักศึกษา และเรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ไปรับฟังความเห็นจากนักศึกษาเอาเอง
  • 31 ก.ค.กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เปิดแถลงข่าวว่า กมธ. เห็นร่วมกันว่าต้องแก้ไขมาตรา 256 เพื่อปลดล็อกให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ทำได้ง่ายขึ้น และหากเป็นไปได้อาจเสนอตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ท่ามกลางแรงกดดันจากเครือข่ายนักศึกษาให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็น 1 ใน 3 ข้อเรียกร้องหลัก
  • 4 ส.ค. พล.อ. ประยุทธ์ออกมาประกาศจุดยืนว่าสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 โดยที่รัฐบาลพร้อมส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประกอบไปกับร่างของฝ่ายค้าน คาดว่าจะพิจารณาได้ในสมัยประชุมหน้า
  • 5 ส.ค. พล.อ. ประยุทธ์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความเป็นไปได้ในการยุบสภาตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายนักศึกษา โดยบอกว่า "ต้องไปดูว่าสามารถทำได้หรือไม่" พร้อมมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จัดเวทีย่อยทุกพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นเยาวชน และบอกใบ้ว่า "คงจะต้องหาเวลา" ไปร่วมรับฟังด้วยตนเอง
นายอานนท์ นำภา ขึ้นปราศรัย ในชุดแฮร์รี พอตเตอร์
line

รู้จัก 3 "ผู้ต้องหา"

ขณะนี้นักเคลื่อนไหวที่ออกมาแจ้งว่าตัวเองถูกออกหมายจับมีทั้งหมด 3 คน พวกเขาคือใคร

อานนท์ นำภา

อายุ 35 ปี เป็นคนจังหวัดร้อยเอ็ด จบการศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เริ่มทำงานด้านสิทธิมนุษยชนตั้งแต่ปี 2549 และเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่ปี 2551 โดยเริ่มทำงานที่บริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งก่อนจะออกมาก่อตั้งสำนักงานทนายความราษฎรประสงค์ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจากเหตุการณ์ทางการเมืองช่วงปี 2553 และยังร่วมเป็นทนายความในเครือข่ายของศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม (ศปช.) และสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน

หลังรัฐประหาร 2557 อานนท์เข้าร่วมเป็นทนายความเครือข่ายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน คอยให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับผู้ได้รับผลกระทบจากการรัฐประหาร รวมทั้งติดตามสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนมาจนถึงปัจจุบัน

อานนท์ยังมีบทบาทในฐานะนักกิจกรรม โดยร่วมก่อตั้งกลุ่มพลเมืองโต้กลับ (Resistant Citizen) ในปี 2558 เน้นทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อชี้ให้เห็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในยุค คสช. ต่อมาเข้าร่วมเคลื่อนไหวในนามกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เพื่อเรียกร้องให้ คสช. มีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว

อานนท์เป็นนักเคลื่อนไหวที่ชอบเขียนบทกวี โดยเฉพาะบทกวีทางการเมือง ซึ่งเคยได้รับการตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์อ่าน ชื่อเรื่อง "เหมือนบอดใบ้ไพร่ฟ้ามาสุดทาง" เมื่อปี 2554 และยังเขียนบทกวีลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นระยะ

อานนท์ถูกดำเนินคดีจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายคดี คดีล่าสุดที่เขาได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา คือกรณีการทำกิจกรรมฉายโฮโลแกรมการอ่านประกาศคณะราษฎรเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.

ภาณุพงศ์ จาดนอก

อายุ 24 ปี เป็นคนระยอง อยู่ที่ อ.บ้างฉาง เกิดและโตที่นั่นจนเรียนจบชั้นมัธยม ก่อนไปเรียนต่อที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ภาณุพงศ์เคยทำงานจิตอาสาในนาม "กลุ่มเยาวชน Youngleaders Thailand" ระดมวัยรุ่นมาทำงานช่วยเหลือคนยากคนจน โดยเขาได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหายากจนจากช่วงการระบาดของโควิด-19 ให้กับคนใน อ.บ้านฉาง

เขาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นตอนที่ไปถือป้ายประท้วง ถามนายกฯ ว่าจะรับผิดชอบและเยียวยาอย่างไรกับการทำให้ประชาชนชาวระยองเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบสอง หลังจากรัฐบกพร่องในการควบคุมบุคคลต่างชาติที่ได้รับการยกเว้น กรณีทหารอียิปต์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ฝ่าฝืนมาตรการกักกันโรค

เขาเห็นว่าจากเหตุการณ์นี้ สะท้อนว่าผู้ใดก็ตามที่เห็นต่างจากรัฐบาลหรือจาก พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะโดนกีดกันและเลือกปฏิบัติ

พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน

เพนกวิน

อายุ 21 ปี เป็นคนกรุงเทพฯ กำลังศึกษาอยู่ที่คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

ช่วงที่เขาศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลาย เขาได้เข้าร่วมกับกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ที่ทำเรื่องการปฏิรูปการศึกษา เขาเริ่มจากการเรียกร้องให้ปฏิรูปวิชาหน้าที่พลเมือง ซึ่งเป็นวิชาที่เพิ่มขึ้นมาตามนโยบายของรัฐบาล จากนั้นไม่นานเขาได้รวมกลุ่มเรียกร้องให้รักษาสิทธิ์เรียนฟรีอย่างมีคุณภาพจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ในฐานะอดีตแกนนำกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา แห่งประเทศไทย (สนท.) พริษฐ์มีบทบาทในการเคลื่อนไหวด้านการเมือง ทั้งการยื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้เร่งรัดการจับกุมผู้ก่อเหตุทำร้ายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์หรือ "จ่านิว" เขายังเป็นคนที่นำถุงกระดาษคลุมศีรษะเข้าคูหาเลือกตั้งเพื่อแสดงสัญลักษณ์ไม่เห็นด้วยต่อการเลือกตั้งของรัฐบาล คสช.

หลังจากนั้นเขาได้ร่วมการประท้วง ชุมนุม และเรียกร้องอย่าต่อเนื่อง เช่น เรียกร้องให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาสอบสวนการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง และการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและ สนท.

Let's block ads! (Why?)



"พวกเขาทั้งหมด" - Google News
August 07, 2020 at 05:48PM
https://ift.tt/3ko84ZG

อานนท์ นำภา: ศาลอนุมัติหมายจับแกนนำ-ผู้ปราศรัยในการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลอย่างน้อย 7 คน - บีบีซีไทย
"พวกเขาทั้งหมด" - Google News
https://ift.tt/2VFpqXR
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3dnz7A2

Bagikan Berita Ini

0 Response to "อานนท์ นำภา: ศาลอนุมัติหมายจับแกนนำ-ผู้ปราศรัยในการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลอย่างน้อย 7 คน - บีบีซีไทย"

Post a Comment

Powered by Blogger.