"แรมโบ้" ย้ำ "ผบ.ทบ." พูดปม นศ.เหตุปกป้องสถาบัน-ห่วงประเทศ ข้องใจ "ธนาธร" พูดหนุนนิสิต อาจหวังผลทางการเมืองเพื่อกลุ่มตนเองหรือไม่ ขณะขอเล่าอดีตเจ็บปวดชุมนุมปี 52-53 ถึงน้องๆ เอามาเป็นบทเรียนให้ทบทวนการชุมนุม
วันที่ 26 ก.ค. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวระหว่างไลฟ์สด จัดรายการ “ก้าวหน้า Talk ช่วงหนึ่งให้ความเห็นเรื่องม็อบเยาวชนปลดแอก ว่า ผบ.ทบ.ไม่มีสิทธิ์มาให้ความเห็นทางการเมือง โดยระบุว่า การที่ ผบ.ทบ.ต้องออกมาพูดนั้น ก็เพราะมีความเป็นห่วงประเทศชาติ และออกมาเพื่อปกป้องสถาบัน ไม่ได้ขัดขวางการชุมชุมของ นศ. แต่ให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เพียงขออย่าก้าวล่วง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่ ผบ.ทบ.ออกมาปรามเรื่องการก้าวล่วงไว้ ซึ่งเรื่องนี้แม้จะไม่ใช่เพียง ผบ.ทบ.เท่านั้น ประชาชนที่รักประเทศ ก็อยากออกมาพูดเรื่องปกป้องสถาบันมากมายเช่นกัน
และที่ นายธนาธร ระบุว่า ผบ.ทบ. เปิดบ้านให้นายสาธิต เซกัล นักธุรกิจไทยเชื้อสายอินเดียและคณะเข้าพบ แต่ไม่รับฟัง นายอานนท์ นำภา และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ที่เดินทางไปหาที่หน้ากองทัพบก นายสุภรณ์ ระบุว่า นายธนาธร ต้องเข้าใจว่า นายสาธิต เข้าพบ ผบ.ทบ.เพราะเขาไปเพื่อเล่าความไม่สบายใจเกี่ยวกับเนื้อหาการปราศรัยของนิสิต นักศึกษา บางคน และนายสาธิต ก็ถือว่าเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมามากมาย และมีเจตนาที่ดี มีความเป็นห่วงประเทศชาติ ซึ่งแตกต่างจาก นายพริษฐ์ และนายอานนท์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านตลอดมา ว่า มีเป้าประสงค์อย่างไร คนไทยทุกคนพออ่านทางออก
"นายสุภรณ์ เชื่อว่า นายธนาธร น่าจะเข้าใจเรื่องนี้ว่า ทั้ง ผบ.ทบ. และนายสาธิต ทำไปเพื่ออะไร แต่กลับออกมาพูดในลักษณะตำหนิทั้ง 2 คน และยังไปพูดดูเหมือนเป็นการสนับสนุนการชุมนุมของนิสิต นักศึกษา ทั้งที่ประเทศเราต้องการความสามัคคีปรองดอง ไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งและวุ่นวายอีกต่อไป ซึ่งแม้นายธนาธรจะออกมาปฏิเสธไม่ได้อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษา แต่ทำให้ตนอดคิดไม่ได้ว่า นายธนาธรน่าจะอยู่เบื้องหลังการชุมนุมหรือไม่" นายสุภรณ์ กล่าว
นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า นายธนาธร เป็นถึงอดีตนักการเมืองและมี ส.ส.พรรคก้าวไกลเป็นทีมงาน ก็ควรยึดมั่นในระบบรัฐสภา ซึ่งมีกลไกลระบบรัฐสภาในการแก้ไขปัญหา ควรจะสนับสนุนให้มีการแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยกระบวนการต่างๆ ที่มีอยู่ ไม่ใช่ควรใช้วิธีแก้ไขปัญหาบนท้องถนน ยุ หรือส่งเสริมให้น้องๆ นศ.ออกมาเคลื่อนไหว เว้นแต่เพียงว่านายธนาธรอยากใช้โอกาสการเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษา ล้มรัฐบาลเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง และเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองตามมา ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่งที่ถ้าคิดเช่นนั้น
นายสุภรณ์ ต่ออีกว่า ตนจึงฝากถึงน้องๆ นศ.ว่า อย่าให้ใครชักใยหรือหนุนหลังเด็ดขาด เพราะบทเรียนในการชุมนุมของพวกพี่ๆ ในอดีตสมัยปี 52, 53 พวกพี่ๆ เคยตกเป็นเครื่องมือให้กับกลุ่มบุคคลที่หนุนหลังเพื่อก้าวสู่อำนาจในบ้านเมือง เพียงหวังผลประโยชน์ ให้กลุ่มและพวกพ้องของตนเอง จนทำให้มีการชุมนุมอันยาวนาน เกิดความขัดแย้งหลายสีเสื้อหลายกลุ่ม ทำให้คนไทยเกิดความขัดแย้งทะเลาะกันวุ่นวายทั้งแผ่นดิน ส่งผลทำลายเศรษฐกิจประเทศเสียหายย่อยยับ การค้าการขายการลงทุนเสียหายยับเยิน บทเรียนที่พี่ๆ ต้องจดจำในอดีตว่า จะต้องบอกกล่าวรุ่นน้องๆ ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกต่อไป เราจะต้องเดินหน้าจับมือกันให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าให้ได้ ต้องร่วมมือกัน เอาบทเรียนการชุมนุมในอดีตมาเล่า หรือบอกกล่าวน้องๆ นศ.ให้ทราบความจริง เพื่อที่จะให้บ้านเมืองไม่ต้องย้อนกลับไปให้มันเจ็บปวดหัวใจเหมือนอดีตในปี 52, 53 อีกต่อไป พี่ๆ จดจำภาพในอดีตติดตาติดใจตลอดเวลา เพราะมันเจ็บปวดหัวใจที่สุด ถ้าย้อนกลับไปได้จะไม่มีทางตกเป็นเครื่องมือให้ใครเด็ดขาด เป็นเรื่องที่ผิดพลาดในชีวิตของพี่ๆ ที่สุด
"ทุกวันนี้ได้แต่คิดสงสารประเทศไทย สงสารประชาชนคนไทย เพราะความผิดพลาดตนเองที่ตกไปเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนที่หนุนหลัง แต่ถ้าน้องๆ นศ. ชุมนุมตามสิทธิ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ พี่คงห้ามอะไรไม่ได้ เพียงแต่พี่อยากเล่าประสบการณ์บอกกล่าวถึงน้อง นศ.ทุกคนให้ทราบกับบทเรียนในอดีตอันเจ็บปวดที่เจอมากับตนเอง เพื่อให้น้องๆ นศ.ได้ลองคิดและทบทวนดูเท่านั้นเองครับ" นายสุภรณ์ กล่าว.
"เป็นต้นฉบับ" - Google News
July 26, 2020 at 10:22AM
https://ift.tt/3jIVRym
แรมโบ้ ข้องใจ "ธนาธร" หนุน นศ.หวังผลการเมือง-ขอเล่าอดีตเป็นบทเรียน - ไทยรัฐ
"เป็นต้นฉบับ" - Google News
https://ift.tt/2xbvptW
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3dnz7A2
Bagikan Berita Ini
0 Response to "แรมโบ้ ข้องใจ "ธนาธร" หนุน นศ.หวังผลการเมือง-ขอเล่าอดีตเป็นบทเรียน - ไทยรัฐ"
Post a Comment