กระทรวงการคลัง เปรียบเสมือนตัวแทนของรัฐบาลในการเป็นเจ้าของธุรกิจต่างๆ ผ่านการถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งหากบริษัทเหล่านั้นสามารถทำกำไรได้ดี และมีการจ่ายปันผล ก็จะเป็นเงินรายได้ที่กลับเข้าสู่หน่วยงานรัฐ
จากการรวบรวมข้อมูลของ"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย"พบว่า กระทรวงการคลังถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์รวมทั้งสิ้น 11 หลักทรัพย์
สำหรับ 11 หลักทรัพย์ ที่กระทรวงการคลังถือครองอยู่ ประกอบด้วย
บริษัทที่มีกำไรสุทธิ
1.บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ถือหุ้น 70% จำนวน 10,000,000,000 หุ้น งวดปี 2562 มีกำไรสุทธิ 25,026 ล้านบาท ประกาศจ่ายเงินปันผลรอบบัญชีปี 2562 อยู่ที่ 1.05 บาท/หุ้น กระทรวงการคลังจะได้รับเงินปันผลรวม 10,500 ล้านบาท
2.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กระทรวงการคลังถือหุ้น 51.11% จำนวน 14,598,855,750 หุ้น งวดปี 2562 มีกำไรสุทธิ 92,950 ล้านบาท ประกาศจ่ายเงินปันผลอัตราหุ้นละ 1.10 บาท กระทรวงการคลังจะได้รับเงินปันผลรวม 16,058 ล้านบาท
3.บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP กระทรวงการคลังถือหุ้น 9.98% จำนวน 137,442,767 หุ้น งวดปี 2562 มีกำไรสุทธิ 29,284 ล้านบาท ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท กระทรวงการคลังจะได้รับเงินปันผล รวม 41.23 ล้านบาท
4.ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB กระทรวงการคลังถือหุ้น 11.79% จำนวน 11,364,282,005 หุ้น งวดปี 2562 มีกำไรสุทธิ 1,731 ล้านบาท ประกาศจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.01 บาท กระทรวงการคลังจะได้รับเงินปันผลรวม 113.64 ล้านบาท
5.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด(มหาชน) หรือ MFC กระทรวงการคลังถือหุ้น 15.92% จำนวน 20,000,000 หุ้น งวดปี 2562 มีกำไรสุทธิ 130 ล้านบาท ประกาศจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท กระทรวงการคลังจะได้รับเงินปันผล 20 ล้านบาท
6.บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH กระทรวงการคลังถือหุ้น 2.92% จำนวน 14,700,000 หุ้น งวดปี 2562 มีกำไรสุทธิ 96 ล้านบาท ประกาศจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท กระทรวงการคลังจะได้รับเงินปันผลรวม 1.03 ล้านบาท
7.กองทุนรวม คือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ TFFIF ที่กระทรวงการคลังถือหุ้น 10% จำนวน 457,000,000 หุ้น ประกาศจ่ายปันผลในอัตรา 0.1163 บาทต่อหน่วย กระทรวงการคลังจะได้รับเงินปันผลรวม 53.15 ล้านบาท

บริษัทที่ขาดทุนสุทธิ
8.บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ถือหุ้น 47.86% ปัจจุบัน THAI ยังตกอยู่ภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการประกาศจ่ายปันผลแต่อย่างใด โดย THAI มีผลขาดทุนสุทธิติดต่อกัน 3 ปี จากปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 2,107.35 ล้านบาท ปี 2561 ขาดทุนสุทธิเพิ่มมาที่ 11,625.17 ล้านบาท และปี 2562 ขาดทุนสุทธิระดับ 12,042.41 ล้านบาท
9.บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT กระทรวงการคลังถือหุ้น 68.5% ปัจจุบัน MCOT ยังตกอยู่ภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการประกาศจ่ายปันผลแต่อย่างใด โดยมีผลขาดทุนติดต่อกัน 4 ปี จากปี 2559 ขาดทุนสุทธิ 734.89 ล้านบาท ปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 2,542.35 ล้านบาท ปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 375.72 ล้านบาท และปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 457.46 ล้านบาท
10.บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ NEP กระทรวงการคลังถือหุ้น 12.72% ยังคงประกาศงดจ่ายเงินปันผล หลังผลประกอบการมีผลขาดทุนต่อเนื่อง โดยมีผลขาดทุนติดต่อกัน 4 ปี จากปี 2559 มีผลขาดทุนสุทธิ 70.90 ล้านบาท ปี 2560 มีผลขาดทุนสุทธิ 30.13 ล้านบาท ปี 2561 มีผลขาดทุนสุทธิ 46.69 ล้านบาท และปี 2562 มีผลขาดทุนสุทธิ 52.15 ล้านบาท
11.บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ PDI กระทรวงการคลังเป็นถือหุ้น 13.81% ยังคงประกาศงดจ่ายเงินปันผล หลังผลประกอบการมีผลขาดทุนติดต่อกัน 2 ปี โดยปี 2561 มีผลขาดทุนสุทธิที่ 41.76 ล้านบาท และล่าสุดปี 2562 ผลขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 5.76 ล้านบาท
จากการสำรวจผลประกอบการของทั้ง 11 หลักทรัพย์ พบว่ามีอาการน่าเป็นห่วงอยู่ 4 บริษัท ซึ่งยังคงมีผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่องจากรอบปี 2562 นั่นคือ THAI-MCOT-NEP-PDI
ทั้ง 4 ราย เมื่อดูจากอาการแล้ว THAI น่าเป็นห่วงที่สุด โดยงวดล่าสุดปี 2562 ขาดทุนสุทธิมากถึง 12,042 ล้านบาท รองลงมา MCOT โดยงวดปี 62 ขาดทุนสุทธิ 457 ล้านบาท และงวดไตรมาส 1/63 ขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 877 ล้านบาท อันดับ 3 หุ้น NEP งวดปี 62 ขาดทุนสุทธิ 52 ล้านบาท และ PDI งวดปี 2562 ขาดทุน 5 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 1/63 พลิกกำไรสุทธิ 63.31 ล้านบาท
0 Response to "เปิดพอร์ตกระทรวงการคลัง หุ้นไหนปัง หุ้นไหนพัง - efinanceThai"
Post a Comment