BDMS เป็นอีกหนึ่งหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลที่ราคาหุ้นยังคงแกว่งตัว เลือกทางไปไม่ได้เสียที แม้หุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งโรงแรมและสายการบิน จะปรับตัวขึ้นแรงไปแล้ว ... ส่วน BDMS นอกจากงบไตรมาส 2/63 ที่อ่อนแอ ยังต้องลุ้นว่าจะมีอะไรที่จะเข้ามาหนุนหุ้นได้บ้าง และผลงานจะกลับมาฟื้นให้นักลงทุนชื่นใจได้เมื่อไหร่กัน?
*** ราคาหุ้นฟื้นช้ามาก หากเทียบกับกลุ่มโรงแรม-สายการบิน
นับตั้งแต่ที่ตลาดหุ้นไทย(SET Index)ดิ่งหนักแตะ 969.08 จุด จากโควิด-19 ระบาด ไปเมื่อ 13 มี.ค. 63 ราคาหุ้น บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS ถือว่าปรับตัวฟื้นขึ้นมาช้ามาก จากราคาต่ำสุด 15.60 บาทในขณะนั้น มาถึงราคาปิดตลาดวันทำการล่าสุด(19 มิ.ย.63) ที่ 22.20 บาท ฟื้นตัวขึ้นมาเพียง +42.30% ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลตัวอื่นๆ
ซึ่งหากเทียบกับหุ้นกลุ่มอื่นที่ได้รับผลกระทบจากลูกค้าต่างประเทศใกล้เคียงกันถือว่าฟื้นตัวขึ้นมาได้ช้ามาก
อย่างเช่น หากเทียบกับกลุ่มโรงแรมโดย ยก CENTEL เป็นตัวอย่าง ราคาหุ้นในช่วงเดียวกันบวกมาแล้วกว่า +90% และสายการบินอย่าง AAV +113%
แม้ราคาจะดู Laggard แต่หากลองสำรวจดูจะพบว่า สาเหตุก็คือ หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเป็นกลุ่มเดียวที่ไม่ได้รับมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐเลย ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยวและสายการบินจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวและการชดเชยต่างๆอยู่เสมอ
*** BDMS จะฟื้นตัวได้ช้า เนื่องจากผู้ป่วยต่างชาติหายไป
BDMS ที่เคยได้เปรียบเพราะมีสัดส่วนลูกค้าจากต่างประเทศสูง กลับกลายเป็นตัวฉุดผลประกอบการในสถานการณ์เช่นนี้
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคทีบี ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 63 ของ BDMS จะฟื้นตัวได้ช้า เพราะผู้ป่วยต่างชาติตัดสินใจชะลอเข้ารับการรักษา เนื่องจากต้องกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันก่อนเข้าประเทศ ซึ่งส่วนนี้มีค่าใช้จ่ายราว 53,000 บาทต่อคน และปกติผู้ป่วยจะเดินทางมากับครอบครัว ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า จากสถานการณ์ปกติ ทำให้ผู้ป่วยที่ไม่ได้เจ็บหนักตัดสินใจเลื่อนการรักษาออกไป
โดยประเมินว่าผู้ป่วยต่างชาติในไตรมาส 3/63 จะลดลง -65% และยังมีดาวไซด์จากการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติที่ฟื้นตัวได้ช้าอีก
*** ผู้ป่วยต่างชาติฟื้นช้า ทำให้กำไรสุทธิปีนี้ทรุดหนัก
บล.เคทีบี ระบุต่อว่า ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้กำไรสุทธิของ BDMS จะหดตัวทำจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/63 ที่ 1,300 - 1,600 ล้านบาท ลดลงทั้ง YoY และ QoQ ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ ในช่วงที่เหลือของปี ทำให้มองว่ากำไรสุทธิปีนี้จะทำไปได้ที่ 7,810 ล้านบาท ลดลงถึง -50%
ขณะที่ บล.เอเชีย เวลท์ ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 63 - 64 ลง 7% และ 5% ตามลำดับ มาอยู่ที่ 8,923 ล้านบาท และ 9,598 ล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้บริษัทได้ดำเนินนโยบายควบคุมค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ราว 2,000 ล้านบาท รวมถึงลด CAPEX ปี 63 ลงเหลือ 2,500 ล้านบาท
ขณะที่บล.เคจีไอ ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ เหลือ 6.58 พันล้านบาท และ ปี 64 เหลือ 7.09 พันล้านบาท
นักวิเคราะห์มองกำไรสุทธิปี 63-64 เอาไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิ(ลบ.) |
ปี 63 |
ปี 64 |
เคทีบี |
7,810 |
- |
เอเชีย เวลท์ |
8,923 |
9,598 |
เคจีไอ |
6,580 |
7,090 |
*** ประเด็นหนุนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ...แต่ลูกค้า BDMS อยู่ในกลุ่มนี้หรือไม่?
บล.ทิสโก้ ระบุว่า จากกรณีที่รัฐบาลมีแผนที่จะใช้ Travel Bubble กับกลุ่มประเทศที่มีการติดเชื้อโควิด-19 ต่ำ เพื่อรับเข้าบริการทางการแพทย์ เราคาดว่าประเทศไทยน่าจะกลับมาเปิดประเทศได้ในเดือน ก.ค. - ส.ค. 63 ซึ่งจะสนับสนุนการฟื้นตัวของ BDMS โดยประเทศที่อยู่ใน Travel Bubble ได้แก่ อาเซียน ตะวันออกกลาง และจีน
ประเด็นนี้ถือเป็นประเด็นบวก แม้ในช่วงแรกจำนวนผู้ป่วยจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากก็ตาม
รวมถึงประเด็นการควบคุมต้นทุนโรงพยาบาลหลายมาตรการ และการปรับตัวมาเปิดบริการรูปแบบใหม่ อย่างเช่น บริการแพทย์ทางโทรศัพท์ การตรวจโควิด-19 และการฉัดวัคซีนแบบ Drive-thru น่าจะเข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการได้บ้าง
อย่างไรก็ดีจากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ยังไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะในอิหร่าน และซาอุดีอาระเบีย
*** ส่วนใหญ่แนะนำ “ซื้อ” เพราะให้น้ำหนักกับการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
ทั้งนี้หากสำรวจมุมมองของนักวิเคราะห์พบว่าส่วนใหญ่แม้จะปรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 63 และ 64 แต่นักวิเคราะห์กลับแนะนำซื้อ เพราะมองว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วโดยให้ราคาเหมาะสม ไว้ดังนี้
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม(บ.) |
เคทีบี |
ขาย |
21.50 |
โนมูระ พัฒนสิน |
ถือ |
19.70 |
ฟินันเซีย ไซรัส |
ซื้อ |
23 |
ไทยพาณิชย์ |
ซื้อ |
26 |
บัวหลวง |
ซื้อ |
25 |
หยวนต้า |
ซื้อเก็งกำไร |
20.50 |
หากนักลงทุนมองว่าผลประกอบการของ BDMS ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ก็ยังต้องพิจารณาด้านราคาหุ้นไว้ให้ดี เพราะแม้นักวิเคราะห์ที่เห็นด้วยกับการฟื้นตัวสุดๆ ก็ยังให้ราคาเหมาะสมไว้ไม่มาก ส่วนนักลงทุนที่มองว่าการฟื้นตัวเป็นไปได้ยาก ก็ควรเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นจับตาไปก่อน เพราะประเทศกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่สามารถจัดการปัญหาโควิด-19 ได้!
0 Response to "BDMS ยังเป็นหุ้นที่น่าลงทุนอยู่ไหม ในสถานการณ์นี้? - efinanceThai"
Post a Comment