- วันที่ 15 พ.ค. นายณรินทร์ น้าชายและญาติของน้องชมพู่ กล่าวว่า ผลจากการผ่าศพพิสูจน์โดยแผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี สภาพศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือการล่วงละเมิดทางเพศ (ผลชันสูตร "น้องชมพู่" ไม่พบถูกทำร้าย-ล่วงละเมิด ผบช.ภ.4 ระดมทีมสืบการตาย)
- วันที่ 18 พ.ค. นายไชย์พล ลุงของน้องชมพู่ กล่าวว่า ผลชันสูตรศพครั้งที่ 2 ซึ่งผลออกมาเป็นบวก น้องชมพู่มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศ แต่ตรงไหนยังไม่ทราบ ส่วนในทางคดีหลังจากนี้ต้องรอเจ้าหน้าที่ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน (ผลชันสูตรศพ "น้องชมพู่" รอบ 2 พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ)
- วันที่ 19 พ.ค. นายแพทย์ศักดิ์สิทธิ์ บุญญลักษณ์ หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่พบร่องรอยของการทำร้ายร่างกาย หรือการร่วมเพศ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้มีการหารือกับแพทย์ทางสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เบื้องต้นก็ไม่มีการขัดแย้งแต่อย่างใด
ทั้งนี้ หมอจากทางสถาบันนิติเวชเอง ไม่ได้ระบุว่ามีการทำร้ายร่างกายหรือล่วงละเมิดทางเพศ ระบุเพียง "ไม่ปรากฏสาเหตุการตาย แต่พบบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ" ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าบาดแผลที่พบเกิดจากทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิด หรือสาเหตุใดแน่ชัด มีแต่การตีความจากสื่อเองว่าถูกทำร้ายร่างกาย แล้วเผยแพร่ทางสื่อต่างๆ จนแผนกได้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง โดยจะต้องแจ้งความดำเนินคดีต่อบุคคลดังกล่าว (นิติเวช สปส. ยันน้องชมพู่ ไม่ถูกล่วงละเมิด แจ้งความคนทำสับสนถูกดูหมิ่น)

- วันที่ 20 พ.ค. พ่อและแม่ของน้องชมพู่ ได้เคาะโลงบอกลูกก่อนจะเผาว่า ให้น้องชมพู่ส่งกระแสจิตมาบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับคนร้ายให้ได้ เพื่อให้ตายตกไปตามกัน ไม่ให้คนชั่วหนีลอยนวล
- วันที่ 21 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนในการตายของน้องชมพู่ทั้งหมด 7 คน
- จากนั้นก็ตีวงแคบลงมาเหลือเพียง 2 คน โดย 2 คนนี้หนึ่งคนเป็นคนที่ทำหน้าที่เก็บของป่า ตัดต้นไม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เคยนำตัวมาสอบปากคำแล้ว แต่การให้ปากคำของเจ้าตัวน่าสงสัยในหลายเรื่อง บางครั้งมีการจับผิดได้ว่าเจ้าตัวมีการโกหกกับทางตำรวจด้วย และอีกหนึ่งคนเคยมีประวัติเกี่ยวกับคดีทางเพศ รวมถึงมีความหมกมุ่นทางจิตเกี่ยวกับเรื่องเพศ และเป็นเพียงคนเดียวใน 7 คนที่มีคลิปลามกไว้ในโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก (ตร.เร่งไขคดีน้องชมพู่ พุ่งเป้าต้องสงสัย 2 ราย แต่ขาดหลักฐานเชื่อมโยง)
- วันที่ 23 พ.ค. นายวี (นามสมมติ) อายุ 40 ปี 1 ใน 7 ผู้ต้องสงสัย ที่ตำรวจนำเจ้าตัวไปตรวจร่างกายและเก็บดีเอ็นเอ กล่าวว่า ผมไม่มีวันฆ่าน้องชมพู่แน่นอน เนื่องจากตัวเองและแม่น้องชมพู่ก็เติบโตมาด้วยกัน น้องชมพู่ก็เปรียบเสมือนลูกสาวคนหนึ่ง วันที่เกิดเหตุ ตัวเองทำงานไม้อยู่ใกล้บ้านน้องชมพู่ อยู่ห่างกันเพียง 100 เมตรเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงน้องชมพู่ร้อง หรือมีคนแปลกหน้าเดินผ่านเข้าไปที่บ้านของน้องชมพู่ ซึ่งตัวเองไม่มั่นใจว่า คนร้ายนั้นอาจจะอ้อมมาจากทางด้านหลังแล้วทำร้ายน้อง หรือปิดปากน้องหรือไม่ ก่อนที่จะพาน้องขึ้นไปบนภูเขา ตัวเองยังคงอยากให้ตำรวจเร่งจับคนร้ายตัวจริงให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากตอนนี้ ชาวบ้านทุกคนต่างระแวง เพราะคิดว่าคนร้ายน่าจะยังคงอยู่ในพื้นที่และเป็นคนในหมู่บ้าน ไม่อยากให้ตำรวจจับแพะ (พ่อแม่ของน้องชมพู่เชื่อลูกไปสบายแล้ว อีก 1 ผู้ต้องสงสัยยันไม่ได้ฆ่าน้อง)

- วันที่ 26 พ.ค. แม่น้องชมพู่ กล่าวว่า การที่หมอดูและพระหลายท่านบอกว่า คนร้ายยังอยู่ในหมู่บ้านไม่ไปไหน และยังคงเล่นละครตบตาเจ้าหน้าที่ไปวันๆ ตนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง คนร้ายยังอยู่ใกล้พวกเธอตลอดเวลา ซึ่งเมื่อก่อนไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์ หรือมนตร์ดำ แต่ตอนนี้เริ่มที่จะเชื่อแล้ว เพราะพระอาจารย์หรือหมอดูหลายคนมองว่า ที่หาไม่เจอ หากนับจากวันที่น้องหายตัวไปก็ผ่านมา 16 วันแล้ว คนร้ายอาจจะต้องมีวิชาหรือเล่นของมนตร์ดำอะไรบางอย่างหรือไม่ เนื่องจากแปลกมาก หากเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่น่าจะหลบซ่อน หรือลงมือได้อย่างแนบเนียนขนาดนี้
- แม่น้องชมพู่ บอกว่า ที่ผ่านมา ตนและสามีไม่ค่อยจุดธูปบูชาศาลหลังบ้าน หรือทำบุญอะไรเท่าไร ซึ่งตรงกับที่หมอธรรมบอก ซึ่งเหตุนี้หรือไม่ที่ทำให้พระภูมิเจ้าที่ไม่ยอมเปิดทาง หรือช่วยให้เจอหลักฐานสักที แต่หลังจากที่มีหลายคนทักและบอกให้ไปบนบานศาลกล่าวบ้าง ตัวเองก็ทำ แต่อาจจะไม่ค่อยบ่อย ("แม่น้องชมพู่" เชื่อคนร้ายมีวิชา-เล่นมนตร์ดำ ยังมั่นใจ ตร.ตามรวบตัวได้ )
- 11 มิ.ย. พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผบก.ภ.จ.มุกดาหาร เปิดเผยว่า ตอนนี้มีพยานหลักฐานแน่นหนาเพิ่มขึ้นตามลำดับ ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอต่างๆ มีผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้ว ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเกรงว่าจะทำให้เสียหายต่อรูปคดี

- สิ่งที่เน้นย้ำ คือ การนำเสนอข่าวอาจจะไปกระทบกระเทือนจิตใจต่อผู้เสียหาย ตอนนี้ผู้เสียหายมีความเสียใจอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้ไปซ้ำเติมผู้เสียหายกันเลย คดีนี้สำนวนคดีพูดไม่ได้ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่สำนวนการสอบสวน มีประจักษ์พยาน พยานวัตถุ พยานหลักฐาน ครบไปในระดับหนึ่งกันไปแล้ว (ตร.มุกดาหารรู้ผลดีเอ็นเอคดีน้องชมพู่แล้ว ส่วน 5 ครูข่มขืน นร.เอาผิดได้แน่)
- วันที่ 17 มิ.ย. ตำรวจไปตรวจบ้านลุงพล ที่เป็นลุงเขยของน้องชมพู่ เป็นครั้งที่ 2 โดยตำรวจมุ่งเป้าไปที่ถุงปุ๋ย ซึ่งลุงพลก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
- โดยตำรวจเก็บถุงปุ๋ยยูเรีย กระสอบปุ๋ยสีขาว ถุงมือผ้าขอบแดง และเก็บขนเจ้านิคสุนัขบ้านลุงพล
- ลุงพล เปิดใจว่า ผมไม่ได้กังวล พร้อมให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มที่ เพราะผมมั่นใจในความบริสุทธิ์ วานนี้ผมไปหาแม่ที่สกลนครมาแค่ไปขอกำลังใจแม่ และไปดูแม่เฉยๆ เพราะตอนนี้แม่ค่อนข้างเครียด

- เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ค้นบ้านลุงพลคนเดียว แต่ไปค้นเกือบทุกบ้านในหมู่บ้านกกกอด
- ประชาชนตอนนี้แบ่งออกไป 2 ฝ่าย สงสัยทั้งพ่อแม่ของน้องชมพู่ และสงสัยลุงพล ซึ่งทั้งหมดต้องรอการพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงอย่างเดียว
- ก่อนหน้านี้หลวงปู่เดือนชัย ธัมมวิจโย เจ้าอาวาสวัดถ้ำจารย์ครูภูหินต่าง จ.มุกดาหาร ที่ทำพิธีและเกิดนิมิตเห็นคนร้ายในคดีน้องชมพู่ และยังให้เลขปริศนาธรรม จนถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
- ล่าสุดวันที่ 18 มิ.ย. นายสิทธิลักษณ์ จิตอาคนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร พร้อมบุคลากรในสังกัดประชุมร่วมกับพระสังฆาธิการ เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต ในกรณีพระเดือนชัย ธัมมวิจโย ประธานที่พักสงฆ์ถ้ำจารย์ครูหินต่าง มีวัตรปฏิบัติแสดงออกไม่เหมาะสมแก่สมณวิสัย โดยมี พระเดชพระคุณพระสุทธิสารโสภณ เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร (ธ) เป็นองค์ประธานการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีมติขับพระเดือนชัย ธัมมวิจโย ประธานที่พักสงฆ์ถ้ำจารย์ครูหินต่าง ออกจากพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร (คณะสงฆ์มีมติไล่ "หลวงปู่เดือนชัย" ออกจากมุกดาหาร ปมโยงคดี "น้องชมพู่")
"เป็นต้นฉบับ" - Google News
June 18, 2020 at 03:10PM
https://ift.tt/2ACWt7m
ใครฆ่าน้องชมพู่ ผ่านมา 38 วันยังเป็นปริศนา คนไทยรอผลการไขคดีของตำรวจ (คลิป) - ไทยรัฐ
"เป็นต้นฉบับ" - Google News
https://ift.tt/2xbvptW
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3dnz7A2
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ใครฆ่าน้องชมพู่ ผ่านมา 38 วันยังเป็นปริศนา คนไทยรอผลการไขคดีของตำรวจ (คลิป) - ไทยรัฐ"
Post a Comment