มองข้อจำกัดความรักในศิลปินเกาหลี ที่แค่อยากมีรักธรรมดา แต่ทำไมเป็นปัญหาเหลือเกิน
ข่าวการออกเดท แต่งงาน หรือการเปิดเผยคนรักในแวดวงศิลปินไอดอลเกาหลี ถือว่าเป็นข่าวที่ได้รับการพูดถึงและเป็นเรื่องราวใหญ่โตอยู่เสมอตั้งแต่วงการเคป๊อปเริ่มมีชื่อเสียงจนกระทั่งปัจจุบัน ทั้งๆ ที่เป็นสิทธิของใครก็ตามที่จะมีความรัก รวมถึงยังเป็นเรื่องน่ายินดีถ้าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับบุคคลธรรมดาทั่วไปอย่างเราๆ
แต่ก็อย่างที่เราเห็นอยู่บ่อยๆ นั่นแหละว่า ในทุกๆ ครั้งที่มีการประกาศข่าวเดทของไอดอล สิ่งที่ตามมาก็มักจะเป็นข้อความเชิงเสียใจไปจนถึงความโกรธของบรรดาแฟนคลับที่ติดตามศิลปินกลุ่มนั้นอยู่ไม่มากก็น้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่า หรือการมองไอดอลเกาหลีมีความรัก มีบริบทหรือเหตุผลอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอีก
แล้วทำไม? การออกเดทในไอดอลเกาหลี ถึงเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตขนาดนั้น?
ข่าวเดท ข่าวใหญ่
มีเรื่องราวแปลกๆ เรื่องหนึ่งที่มักเกิดขึ้นในวันที่ 1 มกราคมของแทบทุกปี คือในขณะที่คนทั่วไปกำลังฉลองกันอยู่นั้น ในกลุ่มแฟนคลับเกาหลี ต่างก็เป็นที่รู้กันดีว่าอาจจะได้พบกับข่าวเดทคนดังตั้งแต่วันแรกของปีใหม่ โดยข่าวนี้จะถูกปล่อยออกมาจากสำนักข่าวบันเทิงชื่อ dispatch ของเกาหลี พร้อมกับภาพ และรายละเอียดยืนยันความสัมพันธ์
การปล่อยข่าวลักษณะนี้ของ dispatch เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2010 กับข่าวเดทของนักแสดง ยู แฮจิน และ คิม ฮเยซู ซึ่งภายหลังสำนักข่าวนี้ก็ปล่อยข่าวเดตในวันปีใหม่ทุกปี ตั้งแต่ปี 2013 กับข่าวของคู่รักซูเปอร์สตาร์ เรน และ คิม แตฮี ส่วนปี 2014 ก็เป็นข่าวของ อี ซึงกิ นักแสดงดาวรุ่ง และ ยุนอา สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง Girls’ Generation
ปี 2015 เป็นข่าว อี จองแจ นักแสดงหนุ่ม และ อิม เซรยอง ลูกสาวประธานกลุ่มธุรกิจ Daesang Group ส่วนปี 2016 คือข่าวของคู่รักไอดอล จุนซู JYJ และฮานิ EXID
ถัดมาในปี 2018 Dispatch ปล่อยข่าวคู่รักออกมาถึง 2 คู่ ทั้งคู่รักไอดอลอย่าง G-Dragon วง BIGBANG กับ อี จูยอน อดีตสมาชิกวง After School และอีกคู่คือ อีจุน นักแสดงชายและอดีตไอดอลวง MBLAQ กับนักแสดงสาว จอง โซมิน ขณะที่ปี 2019 dispatch ปล่อยข่าวคู่รักไอดอลอีกครั้ง นั่นคือ ไค วง EXO กับ เจนนี่ วง BLACKPINK และล่าสุดในปี 2020 นี้ ยังไม่มีการปล่อยข่าวเดทใดๆ จาก dispatch (1)
โดยนอกจากข่าวเดทวันขึ้นปีใหม่ ยังมีข่าวเดทคนดังที่ถูกปล่อยออกมาระหว่างปีอีกหลายคู่ ทำให้มีการพูดถึงในลักษณะต่างๆ มากมายจนถึงขั้นพูดว่า ข่าวเดทเซเลปคนดัง อาจถูกปล่อยออกมาเพื่อกลบข่าวใหญ่บางอย่าง เช่น ข่าวการโกงของรัฐบาล หรือข่าวเสียหายอื่นที่มีแนวโน้มว่าชาวเกาหลีจะไม่พอใจ เพื่อดึงความสนใจส่วนใหญ่ไปที่ข่าวเดท
และหากถามว่า ทำไมข่าวบันเทิงจนแทบจะเป็นข่าวจากปาปารัซซี่นี้ ถึงได้เป็นที่สนใจมากพอกับข่าวหนักอื่นๆ ก็ต้องย้อนไปตั้งแต่การให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลี ที่เกาหลีใต้พยายามยกระดับสถานะของประเทศให้เป็นมหาอำนาจขนาดกลาง โดยใช้ Soft Power เป็นตัวช่วยผลักดัน และนโยบายด้านวัฒนธรรม การผลิตบุคลากรในวงการบันเทิง ก็ถือว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่ทำงานมากมายมหาศาล และมีความสำคัญต่อการรับรู้ของประชาชนอยู่ไม่น้อย (2)
อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงเรื่องการปล่อยข่าวเดทเพื่อกลบข่าวเสียหายอื่นๆ ก็ยังเป็นข้อสันนิษฐาน และยังไม่มีหลักฐานมายืนยันได้อย่างชัดเจนว่าเป็นข่าวกลบจริง เนื่องจากผู้รับข่าวสารนั้นมีหลายกลุ่ม อีกทั้งจากการปล่อยข่าวเดทของ dispatch ที่ถูกเว้นไว้ไม่มีการปล่อยข่าวใดในปี 2017 นั้น dispatch แถลงว่า เพราะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เนื่องจากกำลังมีกระแสข่าวอื้อฉาวของ ชเว ซุนซิล เพื่อนหญิงคนสนิทของอดีตประธานาธิบดีพัค กึนฮเยอยู่ในช่วงนั้น (3)
ข่าวเดท ข่าวทำเจ็บ
นอกจากเรื่องข่าวเดทในวงการบันเทิงจะเป็นที่น่าสนใจโดยทั่วไปแล้ว ในโลกของแฟนคลับ ยังมีการมองภาพ ‘ไอดอลเกาหลี’ ด้วยแว่น ‘คนในอุดมคติ’ ซ้อนขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งนั่นก็เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการสร้างคาแรกเตอร์เสมือนศิลปินเป็น ‘สินค้า’ จากค่ายต้นสังกัด
อันที่จริงมันอาจเริ่มมาตั้งแต่คำว่า ‘ไอดอล’ ที่แปลว่า คนที่เป็นแบบอย่าง คนในอุดมคติ เสียแล้วด้วยซ้ำ เพราะการผลิตไอดอลเกาหลีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คล้ายเป็นสูตรสำเร็จว่าต้องสร้างขึ้นมาให้เพอร์เฟกต์ ทั้งรูปร่างหน้าตา ความสามารถ บุคลิกภาพ การแสดงออก ให้พร้อมที่จะมาขโมยหัวใจแฟนคลับด้วยความเพียบพร้อมทั้งหมดที่มี
เห็นได้จากการ ‘เซอร์วิส’ แฟนคลับให้เป็นแฟนหนุ่ม/แฟนสาวในรูปแบบต่างๆ เช่น กิจกรรม lucky fan ในแฟนมีตติ้งที่บางครั้งอาจมีการสวมบทบาทเป็นแฟนกันระหว่างไอดอลกับแฟนคลับ การลงโทษด้วยการให้ทำท่าทางน่ารักต่างๆ เพื่อง้อขอคืนดีโดยเปรียบเสมือนแฟนคลับคือแฟน การส่งคลิปเสียง morning call การจับมือ จ้องตา ทำตามคำขอของแฟนคลับในงานแฟนไซน์ หรือแม้กระทั่งการปล่อยคลิปวิดีโอแบบโฟกัสเข้าไปที่ใบหน้าสมบูรณ์แบบของพวกเขา พร้อมห้อยท้ายชื่อวิดีโอในรูปแบบ Boyfriend Version (4)
"เราไม่ได้รับอนุญาตให้เดตกับใครเป็นเวลา 3 ปีนับตั้งแต่เดบิวต์ค่ะ"
จอน โซมี ศิลปินเดี่ยวและอดีตสมาชิกวง I.O.I กล่าวถึงกฎของค่ายต้นสังกัดในเวลานั้นอย่าง JYP ในรายการ Abnormal Summit ที่ออกอากาศทางช่อง jTBC เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2016 (5) โดยแม้ไอดอลมักจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดข่าวเดทระหว่างพวกเขากับต้นสังกัดว่า กฎนี้ไม่ได้มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็ยังแสดงให้เห็นว่า เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับศิลปินไอดอลสังกัด การออกกฎห้ามเดท ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ค่ายต้นสังกัดใช้เช่นกัน
ทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่สร้างความรู้สึก ‘เป็นเจ้าของได้’ ให้เกิดขึ้นกับแฟนคลับได้ทั้งสิ้น
นั่นจึงทำให้คนที่มาชอบไอดอลเกาหลีและตั้งตัวเป็นแฟนคลับ คาดหวังในความสมบูรณ์แบบและความเป็น Boyfriend Material หรือ Girlfriend Material ของไอดอลเรื่อยมา และไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่แฟนคลับเหล่านี้แทบจะถูกโปรแกรมไปในทิศทางเดียวกันว่า รักมาก ก็เท่ากับห่วง (หรือหวง) มาก เวลาใดที่มองเห็นว่าไอดอลที่ตนเองชอบอยู่กำลังมีความรัก ก็อาจทำให้เกิดความรู้สึกผิดหวังที่ไอดอลคนนั้นไม่เป็นไปตามอุดมคติ ไม่ทุ่มเทความรักให้กับคนเป็นแฟนคลับ 100% เหมือนแต่ก่อน และบกพร่องไปจากคุณสมบัติไอดอลผู้เพียบพร้อมที่ต้นสังกัด “ขาย” มาให้แฟนคลับ “ซื้อ” ตั้งแต่แรก
นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นที่เป็นเหตุผลของความ “ซีเรียส” เมื่อไอดอลมีข่าวเดทอีก เพราะไอดอลส่วนใหญ่มักเดบิวต์กันออกมาเป็นกลุ่ม กว่าที่เด็กฝึกหัดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะได้รับคัดเลือกจากต้นสังกัดให้มาเป็นศิลปินนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มักจะมีการแข่งขันสูงและเต็มไปด้วยความกดดัน ซึ่งอาจมองได้ในมุมที่ว่า การเดทในสมาชิกวงคนหนึ่ง อาจไม่แฟร์กับสมาชิกในวงคนอื่นๆ ที่ปฏิบัติตัวตามกฎ แม้ว่าการเดทหรือการมีความรัก จะเป็นสิทธิ์และเป็นเรื่องส่วนตัวก็ตาม
ข่าวเดท ข่าวต้องใช้เวลา?
"ความเป็นจริงอาจจะต่างจากที่เราคิด แต่ผมก็คิดว่าควรจะยอมรับถึงจะมีความสุขได้ ผมกลัวว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อวง จึงได้พูดคุยกับสมาชิกวงก่อนแล้ว ผมรู้สึกผิดต่อแฟนคลับมากครับ แต่ก็จะตอบแทนด้วยการตั้งใจทำงานเพลงอย่างเต็มที่" (6)
อีดอน หรือคิม ฮโยจง อดีตสมาชิกวงไอดอล PENTAGON บอกกับสื่อหลังถูกเปิดเผยความสัมพันธ์กับ ฮยอนอา ศิลปินหญิงที่สังกัดอยู่ในค่ายเดียวกันมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 2 ปี แม้ช่วงแรกต้นสังกัดจะออกมาปฏิเสธข่าวเดทที่ถูกลือไปจนทั่วให้ แต่ทั้งคู่ก็ไม่อยากปิดบังอีกต่อไปแล้ว จึงตัดสินใจยอมรับและเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างกัน
นั่นเป็นข้อสะท้อนให้เห็นว่า แม้แต่ไอดอลที่ออกมายอมรับว่าเดท ก็ยังเลืิอกที่จะปิดบังสถานะความสัมพันธ์ในตอนแรก เพราะกลัวผลกระทบอาจเกิดขึ้นกับตัวเอง คู่รัก สมาชิกวง และปัจจัยอื่นๆ โดยการ “แลก” ความอิสระในสถานะของตนเองไปกับผลกระทบนั้นมีราคาสูงลิบ พวกเขาถึงได้เดทกันแบบลับๆ แต่บางครั้งก็ถูกเปิดเผยความสัมพันธ์โดยนักข่าว
ยังมีไอดอลอีกหลายคนที่ออกมาเปิดใจเรื่องเดทในอดีตที่รายการวาไรตี้ต่างๆ แสดงให้เห็นว่าการเปิดเผยเรื่องนี้ยังเป็นข้อกังวลอยู่มากในหมู่ไอดอล เพราะหากไม่อยากทนเก็บเป็นความลับ พวกเขาก็จะต้องรอให้ผลกระทบลดน้อยลงก่อนถึงจะเปิดเผยได้ ในขณะเดียวกันก็มีแฟนคลับบางส่วนเช่นกันที่คิดว่า ก่อนใครจะก้าวเข้าสู่วงการเด็กฝึกหัดเพื่อไปเป็นไอดอลก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าระบบการผลิตไอดอลเกาหลีเป็นอย่างไร จะถูกจำกัดสิทธิ์อะไรไปบ้าง และถ้าหากพวกเขา “เลือก” แล้ว ก็ควรที่จะรับผลของมันให้ได้
โดยความเห็นเช่นนี้ ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลนัก เพราะศิลปินบางคนอาจจะแค่มีความฝันว่าจะได้ขึ้นมาแสดงบนเวทีเฉยๆ ซึ่งการเข้ามาเป็นไอดอล ก็คงเป็นทางไม่กี่ทางของพวกเขาโดยที่ไม่สามารถ “เลือก” ได้ว่าจะยอมหรือไม่ยอมรับการจำกัดสิทธิส่วนตัว ภายใต้ระบบที่พยายามจะผลิตไอดอลให้เป็น “สินค้าอันสมบูรณ์แบบที่ถูกเป็นเจ้าของได้โดยแฟนคลับ”
อย่างไรก็ตาม ปัญหาแฟนคลับกีดกันไอดอลไม่ให้เดทก็ “เหมือนกับว่า” จะมีอายุของมัน เพราะเมื่อระยะเวลาผ่านไป ความรุนแรงของกระแสความโกรธ ก็จะลดลงไปตามอายุที่เพิ่มขึ้นและความนิยมที่อาจลดลงของคนดัง รวมถึงวัยของแฟนคลับที่มองทะลุปรุโปร่งลงไปจนถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนของไอดอลที่ตนชื่นชอบ
ดูกรณีคู่รักคนดังอย่าง แทยัง วง BIGBANG และนักแสดงสาว มิน ฮโยริน ที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อปี 2018 ท่ามกลางการแสดงความยินดีและการกล่าวถึงว่าเหมาะสมกันทั้งคู่ เช่นเดียวกันกับ ชางมิน วง TVXQ ที่มีการปล่อยข่าวมาจากสื่อว่าเขากำลังเดทอยู่กับสาวนอกวงการ ซึ่งหลังจากที่ต้นสังกัดยืนยัน ก็มีข้อความแสดงความยินดีส่งไปถึงอย่างล้นหลาม ซึ่งข้อความเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มาจากกลุ่มแฟนคลับที่ปล่อยไอดอลไปมีความรักเป็นของตัวเองได้ แม้ในอดีตอาจเป็นเรื่องอ่อนไหวก็ตาม
อันที่จริงยังมีข้อมูลอีกบางส่วนชี้ให้เห็นว่า ไม่ใช่ว่าไอดอลที่อยากจะมีแฟนควรรอจนกว่าจะอายุมากขึ้นถึงจะมีแฟนได้เสมอไป เพราะเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ข่าวเดทของ ฮีชอล วง Super Junior และโมโมะ วง TWICE ก็มีกระแสไปทางลบค่อนข้างน้อย ท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิดดราม่า เพราะทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต่างก็เป็นไอดอลที่มีแฟนคลับทั้งคู่ และอาจนับได้ว่าเหตุการณ์นี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในวงการไอดอลเกาหลี ที่คนเริ่มเปลี่ยนความคิดและมองว่ามันควรจะเป็นเรื่องปกติถ้าหากไอดอลคนใดจะมีแฟนแบบเปิดเผย
ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าในมุมมองของแฟนคลับ การยอมรับหรือแสดงความยินดีกับคู่รักของศิลปินจะไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนักที่การตัดสินใจไม่ติดตามศิลปินต่อจะเกิดจากความรู้สึกด้านลบในเหตุการณ์นี้ แต่ในอีกมุมหนึ่งนั้น เหล่าแฟนคลับก็ต้องทำความเข้าใจด้วยเช่นกันว่า แม้เราจะตัดเรื่องการมองว่าศิลปินเป็นคนธรรมดาออกไป แต่อย่างไรศิลปินก็มีสิทธิในตัวเขาเองเช่นกันที่จะคบหาหรือมีความรัก ไม่ว่าคู่รักของพวกเขาจะเป็นทั้งคนในหรือกนอกวงการบันเทิงก็ตาม
โดยจุดเริ่มต้นแรกในการทำใจหรือรับมือกับเรื่องนี้ คือการเคารพการตัดสินใจของกันและกัน และมองถึงเรื่องสิทธิที่จะทำ หรือไม่ทำอะไรก็ได้ทั้งของไอดอลและแฟนคลับให้ได้จะดีกว่า
ที่มา: (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7)
"พวกเขาทั้งหมด" - Google News
April 29, 2020 at 05:41PM
https://ift.tt/2zHsnyz
แฟนคลับ vs แฟนครับ: ไอดอลเกาหลี ทำไมไม่ควรมีแฟน - กรุงเทพธุรกิจ
"พวกเขาทั้งหมด" - Google News
https://ift.tt/2VFpqXR
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
Bagikan Berita Ini
0 Response to "แฟนคลับ vs แฟนครับ: ไอดอลเกาหลี ทำไมไม่ควรมีแฟน - กรุงเทพธุรกิจ"
Post a Comment