
ฉากจบของ "กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการเมือง" ในการชุมนุมต่อต้านเผด็จการ ขับไล่รัฐบาลเมื่อช่วงสายของวันที่ 20 ก.ย.63ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า ไม่สมกับราคาที่ประกาศกร้าวกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ อย่างสิ้นเชิง !
เมื่อที่สุดแล้ว แกนนำและผู้ชุมนุมไม่อาจทำตามที่ประกาศเอาไว้ว่าจะบุกไป "ทำเนียบรัฐบาล" เพื่อขับไล่ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือฝ่าแนวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อไปปักหมุดคณะราษฎรที่บริเวณหน้าพระราชวังดุสิต
เพราะที่สุดแล้ว แกนนำได้ตัดสินใจเปลี่ยนแผนกระทันหัน นำมวลชนเปลี่ยนเส้นทางไปยัง "ทำเนียบองคมนตรี" ใกล้กับวัดพระแก้วแทน เพื่อยื่น 3 ข้อเรียกร้องและ 10ข้อเสนอเพื่อปฏิรูปสถาบัน โดยมี " พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา" ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)ที่เป็นผู้รับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุมไปในฐานะ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ไม่ได้เป็นตัวแทนของส่วนสำนักองคมนตรี
แม้แกนนำผู้ชุมนุมจะประกาศ "ชัยชนะ"ว่าการเคลื่อนไหวชุมนุม 19กันยา ครั้งนี้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการต่อสู้ในเชิงสัญลักษณ์ อีกทั้งไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ก็ตาม แต่ในอีกมุมหนึ่งของความเป็นจริง ซึ่งแกนนำม็อบที่เป็น "เยาวชน" ต่างต้องเรียนรู้กันเอาเอง ว่าการชุมนุมครั้งนี้ เป้าหมายมวลชนที่ตั้งเป้ากันเอาไว้ เป็น "เรือนแสน" นั้นย่อมไม่อาจพึ่งพาจาก "กลุ่มนักเรียน นักศึกษา" ได้ทั้งหมด
แต่ต้องใช้บริการจาก "นักการเมือง" ที่ช่วยจัดหา "พี่น้องคนเสื้อแดง" ทั้งจากต่างจังหวัดและปริมณฑล เพื่อมาทำหน้าที่เป็น "แกนหลัก" เช่นเดียวกันกับการบริหารจัดการทั้งเสบียง อาหาร อุปกรณ์และเวทีต่างๆ อย่าลืมว่า การจัดม็อบย่อมต้องอาศัย "มืออาชีพ"
การถอยร่นของม็อบแนวร่วมประชาชนปลดแอก และพันธมิตร ร่วมรบครั้งนี้ จนทำให้ม็อบไม่ "เบิ้มๆ" เกิดบิ๊กเซอร์ไพรซ์ อย่างน่าเสียดายนั้น ส่วนหนึ่งเพราะการชุมนุมรอบนี้ มีหลายเงื่อนไขที่กลายเป็น "อุปสรรค" เกิดเป็น "กับดัก" ให้กับตัวเอง
ทั้งการปราศรัยโจมตีไปถึง "สถาบัน" อย่างจงใจของ แกนนำม็อบประชาชนปลดแอก จนทำให้แม้แต่ "พรรคเพื่อไทย" ที่ไปตั้งเต้นท์ สังเกตการณ์การชุมนุม ยังต้อง "ถอย" ออกมา สั่งถอนเต้นท์ ออกจากที่ตั้งในคืนวันที่ 19 ก.ย. เพราะนี่คือความสุ่มเสี่ยง หมิ่นเหม่ ที่อาจดึงให้ "ฝ่ายการเมือง" ตรงข้ามรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ถูกโยงว่าเป็น "กลุ่มล้มเจ้า"ไปด้วย
นอกจากนี้ ยังน่าสนใจว่า ในการชุมนุมครั้งนี้ แม้จะใช้ "นักศึกษา" ถือธงเป็นแกนนำอยู่เบื้องหน้า แต่ก็ยังจำเป็นต้องใช้รูปแบบการชุมนุม ที่เรียกว่า "เสื้อแดงโมเดล" ทั้งการขนมวลชนพี่น้องคนเสื้อแดงเข้ามาสมทบ จากต่างจังหวัด ที่ล้วนแล้วต้องมี "ค่าใช้จ่าย" และหากจะ "อยู่ยาว" ใครจะเป็นคนบริหารจัดการ และนำมวลชน เพราะ "นักศึกษา" ทั้ง "เพนกวิน" และ "รุ้ง ปนัสยา" หรือแม้แต่ "ทนายอานนท์" ยังไม่มีใครที่เข้าขั้น "มือถึง" ผ่านประสบการณ์การชุมนุมใหญ่ๆ มาก่อนทั้งสิ้น
ดังนั้นแม้จะใช้บริการพี่น้องคนเสื้อแดง และรูปแบบการชุมนุมแบบคนเสื้อแดง แต่แกนนำนักศึกษา ย่อมไม่อาจนำมวลชนบุกฝ่าแนวเจ้าหน้าที่หรือรั้วลวดหนาม ได้เหมือนกับม็อบเสื้อแดง เสื้อเหลือง และม็อบกปปส.ที่เคยทำมาแล้วในอดีตได้ และที่น่าสนใจไปกว่านั้น มวลชนคนเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุมครั้งนี้ เป้าหมายคือการขับไล่รัฐบาล แต่ไม่ต้องการพาดพิงสถาบัน ขณะที่พรรคเพื่อไทยเองที่มีศักยภาพในทางการเมืองเหนือกว่าพรรคก้าวไกลก็จำเป็นต้อง "รักษาพรรค" แทนการเทหมดหน้าตักเพื่อให้ "คณะก้าวหน้า" ได้ประโยชน์ไปฝ่ายเดียว !
"เป็นต้นฉบับ" - Google News
September 21, 2020 at 12:10AM
https://ift.tt/35RviCH
ถอย... ไม่เป็นขบวน - สยามรัฐ
"เป็นต้นฉบับ" - Google News
https://ift.tt/2xbvptW
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3dnz7A2
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ถอย... ไม่เป็นขบวน - สยามรัฐ"
Post a Comment