กลายเป็นประเด็นฉาวไปทั่วโลกลูกหนัง หลังจากที่ เมสัน กรีนวู้ด กับ ฟิล โฟเด้น 2 ดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษละเมิดกฎการกักตัวด้วยการพาสาวเข้าไปในโรงแรมตอนที่พวกเขาเดินทางไปเล่นเกม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก กับประเทศไอซ์แลนด์ จนทำให้ทั้งคู่โดนส่งตัวกลับบ้านเกิดทันที
ที่จริงหลายทีมชาติก็มีเหตุการณ์ดราม่านอกสนามเวลาที่อยู่ต่างแดนกันอยู่บ้าง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า อังกฤษ คือหนึ่งในชาติที่มีเรื่องแบบนั้นมากที่สุด ไม่ว่าจะทั้งในด้านที่สุดท้ายแล้วนักเตะของพวกเขาผิดจริง หรือในด้านที่สุดท้ายแล้วคนของพวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งวันนี้เราก็มีเหตุการณ์ดราม่านอกสนามในต่างแดนเด่นๆ ของ อังกฤษ มานำเสนอสัก 3 เหตุการณ์ และมันก็มีทั้งเหตุการณ์ที่คนของพวกเขาผิดจริง กับเป็นผู้บริสุทธิ์ด้วย
- เก้าอี้หมอฟันอันลือลั่น
สำหรับแฟนบอลอังกฤษที่ตามเชียร์ทัพ "สิงโตคำราม" มานานแล้วนั้น เหตุการณ์นี้คงเป็นสิ่งแรกๆ ที่โผล่มาในหัวของคุณ โดยเหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากการที่ อังกฤษ เดินทางไปเล่นทัวร์นาเมนต์พิเศษที่ประเทศจีนกับเกาะฮ่องกง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับศึก ยูโร 96 ที่พวกเขาจะเป็นเจ้าภาพ
ที่จริงชัยชนะเหนือ จีน 3-0 และการเฉือน ฮ่องกง โกลเด้น เซเล็ค XI 1-0 ก็ไม่ใช่ประเด็นที่แฟนบอลอังกฤษสนใจมากมายอะไรอยู่แล้ว แต่ผลการแข่งขันทั้ง 2 นัดที่ว่าก็ถูกมองข้ามมากขึ้นไปอีกเมื่อเหล่าขุนพล "สิงโตคำราม" ก่อเหตุฉาวอันลือลั่นในไนต์คลับแห่งหนึ่งบนเกาะฮ่องกงหลังจบเกมกับ ฮ่องกง โกลเด้น เซเล็ค XI เพราะพวกเขาซดเหล้าและเบียร์กันอย่างเริงร่าจนหมดสภาพการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการฉีกเสื้อจนขาด หรือการเมาเละเทะ
ทั้งนี้ หนึ่งในชอตที่เป็นตำนานที่เอามาใช้เตือนใจนักฟุตบอลอังกฤษมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือตอนที่นักเตะ อังกฤษ บางส่วน อย่างเช่น พอล แกสคอยน์ และ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ผลัดกันขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้แบบที่หมอฟันเขาใช้กันที่ทางไนต์คลับเอามาใช้เป็นส่วนประกอบของบาร์ แล้วจากนั้นก็ให้เพื่อนๆ เทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรอกปากแบบแทบจะไหลรวดเดียวจากปากไปถึงท้องโดยที่ไม่มีการหยุดพักหายใจ
"Disgracefool" ซึ่งเป็นการผสมกันของคำว่า "Disgraceful" และ "Fool" ถูกนำไปใช้เป็นพาดหัวข่าวของ เดอะ ซัน สื่อของอังกฤษ โดยถ้าแปลเป็นไทยก็ได้ประมาณว่า "พวกงี่เง่าน่าขายหน้า" มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าเหล่าคนในบ้านเกิดรู้สึกแย่กับการกระทำของแข้งเหล่านั้นมากแค่ไหน แต่สุดท้าย แกสคอยน์ ก็เอาเหตุการณ์นี้ไปเป็นท่าฉลองประตูของตัวเองในเกม ยูโร 96 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ ที่ชนะ สกอตแลนด์ 2-0 อีก
- ความฉาวที่ทำ คีแกน ซวย
ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สนามบินในกรุงเบลเกรดอัดจนได้แผลปกช้ำ, จมูกแตกจนเลือดไหล, โดนจับ, ถูกตั้งข้อหาลวนลามทางเพศสจ๊วร์ตสาวบนเครื่องบิน, โดนข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, ถูกฟ้องร้องจากประเด็นการก่อความวุ่นวาย และโดนตั้งข้อหาขัดขวางการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ เควิน คีแกน ต้องเจอ ในตอนที่เขาอยู่ที่สนามบินของกรุงเบลเกรด ปี 1974 เพื่อเตรียมเล่นเกมอุ่นเครื่องกับ ยูโกสลาเวีย
ประเด็นก็คือนอกจากการทะเลาะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วนั้น มันก็ไม่มีอันไหนเลยที่ คีแกน ร่วมก่อเหตุด้วยจริงๆ และที่จริงเขาก็คงไม่ต้องมีเรื่องมีราวกับรปภ. จนถึงขั้นได้รับแผลด้วย ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะความป่วนของ อเล็ก ลินด์เซย์ ฟูลแบ็กเพื่อนร่วมทีมในขณะนั้น
เรื่องของเรื่องก็คือตอนเดินทางไปถึงสนามบินในกรุงเบลเกรด คีแกน ตัดสินใจพักด้วยการนั่งหลับตรงริมสายพานที่ส่งกระเป๋าลงจากเครื่อง แต่ในตอนที่เขากำลังงีบอยู่ ลินด์เซย์ ดันขึ้นไปเต้นแบบร่าเริงบนสายพาน จนทำให้เจ้าหน้าที่ประจำสนามบินรีบวิ่งเข้ามาในที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม รปภ. ดันไปกระชากตัว คีแกน ที่กำลังหลับอย่างสบายอารมณ์ขึ้นมาด้วย ซึ่งมันก็ทำให้ คีแกน พยายามขัดขืนและตอบโต้กลับไป ก่อนที่สุดท้ายเจ้าหน้าที่คนหนึ่งจะใช้แขนโอบรัดคอหอยของ คีแกน จนทำให้ดาวเตะคนดังหายใจแทบไม่ออก โดยหลังจากนั้น คีแกน โดนถูกเตะกับต่อยหลายครั้ง รวมถึงถูกอัดที่หน้า ก่อนที่จะถูกสั่งให้คุกเข่าแบบคนร้ายแล้วโดนจับตัวไป โดยตอนนั้นรปภ. ไม่รู้ว่า คีแกน คือนักฟุตบอลชื่อดัง
ส่วนข้อกล่าวหาของการล่วงละเมิดทางเพศสจ๊วร์ตบนเครื่องนั้น คีแกน ไม่มีทางเป็นคนผิดได้เลย เพราะหลายคนยืนกรานว่าตอนอยู่บนเครื่องเขาหลับปุ๋ย ซึ่งสุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ถอนฟ้อง คีแกน จากทุกข้อกล่าวหา
- มัวร์ กับข้อหาขโมยของ
อังกฤษ เดินทางไปทำศึก ฟุตบอลโลก 1970 ด้วยเป้าหมายที่จะป้องกันแชมป์ให้ได้ ซึ่งพวกเขาก็วางแผนเตรียมความพร้อมด้วยการไปเล่นเกมอุ่นเครื่องกับ โคลอมเบีย และ เอกวาดอร์ ถึงบ้านของทั้ง 2 ชาตินั้นในวันที่ 20 กับ 24 พฤษภาคม 1970 ตามลำดับ แล้วจากนั้นก็ค่อยบินไปทำศึกฟุตบอลโลกที่ประเทศเม็กซิโก
ทั้งนี้ ตอนอยู่ที่กรุงโบโกต้า ประเทศโคลอมเบีย บ็อบบี้ มัวร์ กัปตันทีมชาติอังกฤษในตอนนั้น, บ็อบบี้ ชาร์ลตัน แข้งคนดังของทีม และ นีล ฟิลลิปส์ แพทย์ประจำทีมได้ไปที่ร้านเพชรแห่งหนึ่งเพื่อจะหาซื้อของขวัญให้กับภรรยาของ ชาร์ลตัน โดยว่ากันว่า ปีเตอร์ ธอมป์สัน ปีกของทีมก็ตามไปสมทบในช่วงหนึ่งด้วย ซึ่งสุดท้ายพวกเขาก็หาของที่ต้องการไม่เจอ แล้วเดินออกจากร้าน
อย่างไรก็ตาม คลาร่า พาดิย่า ผู้ช่วยของร้านวิ่งออกมาจากร้านแล้วกล่าวหา มัวร์ กับพรรคพวกว่าขโมยกำไลข้อมือไปจากร้าน ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดปฏิเสธเรื่องดังกล่าวพร้อมทั้งอาสาให้ค้นตัวได้ตามสบายด้วย ขณะที่ตำรวจกับโรงแรมในโคลอมเบียก็ลงมาสอบสวนในเรื่องนี้เช่นกัน โดยตอนแรกมันทำท่าว่าจะจบลงด้วยดี เพราะตำรวจสอบปากคำทุกคนอย่างละเอียด และมีการขอโทษ มัวร์ กับพรรคพวกอย่างดิบดี
หลังจากเล่นเกมกับ เอกวาดอร์ เสร็จ อังกฤษ ก็ออกเดินทางไปยังประเทศเม็กซิโก ซึ่งมันต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโบโกต้าซะก่อน โดยพวกเขาก็ยังเช็กอินเข้าพักโรงแรมเดียวกับที่พักในตอนแรกเพื่อเป็นการรอขึ้นเครื่องเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เหล่านักเตะ อังกฤษ กำลังดูหนังเรื่อง Shenandoah อยู่นั้น ตำรวจ 2 คนก็เข้ามาแล้วลาก มัวร์ ออกไป พร้อมกับจับเขาในข้อหาขโมยของ และนั่นก็ทำให้ อังกฤษ จำเป็นต้องเดินทางไปยัง เม็กซิโก ก่อน โดยที่ปล่อยให้ มัวร์ ต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองที่โคลอมเบีย
สุดท้ายแล้วก็ไม่มีหลักฐานมากพอที่จะบอกได้ว่า มัวร์ มีความผิดจริง ทำให้เขาได้รับการปล่อยตัว ก่อนที่จะรีบเดินทางไปรวมตัวกับเพื่อนร่วมทีมชาติที่ประเทศเม็กซิโก โดยบางคนมองว่านี่เป็นการจัดฉากของคนหัวหมอในโคลอมเบียที่อยากจะเอาเงินแบบเนียนๆ จากทีมชาติอังกฤษ ส่วนบางคนเชื่อว่าเป็นแผนของบางชาติที่ตั้งใจทำให้ มัวร์ อดไปเล่นกับทีมชาติอังกฤษในศึกฟุตบอลโลกเลย
- เด็กเกร็ดบอล -
"พวกเขาทั้งหมด" - Google News
September 08, 2020 at 02:36PM
https://ift.tt/32a96l7
มีทั้งผิดจริงและไม่จริง! 3 เหตุการณ์ดราม่านอกเกาะของทีมชาติอังกฤษ - สยามกีฬา
"พวกเขาทั้งหมด" - Google News
https://ift.tt/2VFpqXR
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/3dnz7A2
Bagikan Berita Ini
0 Response to "มีทั้งผิดจริงและไม่จริง! 3 เหตุการณ์ดราม่านอกเกาะของทีมชาติอังกฤษ - สยามกีฬา"
Post a Comment